สหรัฐฯคว่ำบาตร 13 ธุรกิจจีน/เกาหลีเหนือ
สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร 13 หน่วยงานธุรกิจของจีนและเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 21 พ.ย. โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และสนับสนุนเกาหลีเหนือผ่านการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน
โดยกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศบนเว็บไซต์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแขวนเกาหลีเหนือไว้ในบัญชีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายเพียงหนึ่งวัน
กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดชี้ให้เห็นว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์มุ่งเป้าไปที่การค้าระหว่างจีนและเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะหยุดยั้งเกาหลีเหนือจากความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่ติดตั้งบนขีปนาวุธ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการยิงได้ไกลถึงพื้นที่ของสหรัฐฯ
มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดของสหรัฐฯคือ การขึ้นบัญชีดำ 3 บริษัทของจีนคือ Dandong Kehua Economy & Trade Co., Dandong Xianghe Trading Co., and Dandong Hongda Trade Co. ซึ่งกระทรวงการคลังระบุว่า มีการค้าแบบผสมผสานกับเกาหลีเหนือมากกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 24,757 ล้านบาท ในช่วงเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา สิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.
โดยกระทรวงชี้แจงว่า ทั้งสามบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับการค้าถ่านหิน แร่เหล็ก ตะกั่ว สังกะสีและแร่เงิน โลหะตะกั่ว รวมถึงผลิตภัณฑ์จากเหล็ก เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ยังมีการขึ้นบัญชีดำนาย Sun Sidong และบริษัทของเขาคือ Dandong Dongyuan Industrial Co. ในรายงานเดือนมิ.ย. สำนักคิด C4ADS ของสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัทนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายที่เชื่อมโยงกับบริษัทของจีนที่มีสัดส่วนการค้าจำนวนมากกับเกาหลีเหนือ
ทางการสหรัฐฯ ยังได้เล็งเป้าไปที่บริษัทและบุคคลจากเมืองตานตง ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลีเหนือ เพื่อตัดเส้นทางไม่ให้เกาหลีเหนือมีรายได้จากการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ถ่านหิน
แอนโธนี รัจจิเอโร ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเกาหลีเหนือที่มูลนิธิเพื่อปกป้องประชาธิปไตยกล่าวว่า ที่ผ่านมา จีนไม่เข้มงวดเรื่องกฎระเบียบทางการเงินในพื้นที่เมืองตานตง จึงส่งผลให้มีหลายบริษัทที่สนใจจะทำกำไรด้วยการขายสินค้าให้เกาหลีเหนือ
โดยมาตรการคว่ำบาตรใหม่ยังกระทบกับบริษัทเกาหลีเหนือจำนวนมากที่ส่งออกแรงงานไปทำงานยังหลายประเทศ เช่น รัสเซีย โปแลนด์ กัมพูชาและจีน ทางการสหรัฐฯกล่าวว่า กำลังหาวิธีตัดเส้นทางการเงินของเกาหลีเหนือจากการส่งออกแรงงานไปต่างประเทศ
Heather Nauert โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่า การคว่ำบาตรตั้งเป้าที่จะโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ โดยเสริมว่า เธอไม่คิดว่า การเล็งเป้าไปที่บริษัทของจีนจะส่งผลกระทบกับประเด็นความร่วมมือระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ
“ ดิฉันไม่คิดว่านี่จะส่งผลร้ายกับอะไร ดิฉันคิดว่าโลกเห็นเหมือนกันในประเด็นนี้ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลง ” เธอกล่าว