ปักกิ่งยกระดับภัยฉุกเฉินจากไวรัส
ปักกิ่ง – เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. กรุงปักกิ่งยกระดับมาตรการรับมือภัยฉุกเฉินจากโควิด -19 ขึ้นเป็นระดับ 2 ซึ่งเป็นระดับรองจากระดับสูงสุด จากที่มีทั้งหมด 4 ระดับ หลังจากได้มีการลดระดับลงไปแล้วในรอบเกือบสองสัปดาห์
โรงเรียนทุกแห่งจะถูกปิดตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. เป็นต้นไป และร้านอาหารต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและมีการตรวจวัดอุณหภูมิอย่างเข้มงวดในสถานที่สาธารณะ
ผู้ที่เดินทางเข้ากรุงปักกิ่งต้องถูกตรวจทดสอบไวรัสโคโรนา ขณะที่ห้ามผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ความเสี่ยงระดับกลางถึงระดับสูงไม่ให้ออกจากเมือง ขณะที่ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงสูงจะถูกล็อกดาวน์ และไม่ให้ออกนอกพื้นที่
ตั้งแต่มีการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ กรุงปักกิ่งไม่เคยล็อกดาวน์เหมือนอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ แต่ที่ต้องยกระดับมาตรการคุมเข้ม เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อจากตลาดค้าส่งอาหารยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. หน่วยงานสาธารณสุขรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 106 รายในรอบ 5 วันล่าสุด
เทศบาลกรุงปักกิ่งยังได้ระงับบริการรถแท็กซี่และบริการเรียกรถจากแอปพลิเคชั่นในการเดินทางขาออกจากเมือง รวมทั้งเครือข่ายรถบัสโดยสารระหว่างมณฑล สั่งล็อกดาวน์ 29 ชุมชนที่อยู่อาศัย และมีการฆ่าเชื้อทำความสะอาดบริเวณตลาด ร้านอาหาร และสถานที่สาธารณะ
ซูเฮ่อเจี้ยน โฆษกรัฐบาลอธิบายสถานการณ์ในเมืองหลวงว่า “น่ากลัวมาก” โดยเขาระบุว่า ทางการจะพลิกแผ่นดินเพื่อควบคุมการระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในกรุงปักกิ่ง นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาอุบัติขึ้นในเมืองอู่ฮั่นปลายปีที่แล้ว
“เราต้องทำงานแข่งกับเวลา ทำงานเชิงรุก ต้องล้ำหน้าไวรัสไปก้าวหนึ่งเสมอ และใช้มาตรการที่มุ่งมั่น แน่วแน่ และเข้มงวดที่สุด” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.
โดยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ตลาดค้าส่งอาหารซินฟาตี้ ซึ่งพบการระบาดจากเขียงปลาแซลมอนตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย. เป็นงานที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดในการสกัดไวรัสโคโรนา มีการสั่งตรวจหาผู้ติดเชื้อจำนวนมาก มีการสอบสวนโรคและกักตัวผู้ที่มีการสัมผัสกับตลาดแห่งนี้ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง
มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในตลาดกว่า 270 แห่งและร้านอาหารกว่า 30,000 ร้าน ขณะที่มีการสั่งปิดตลาดอีก 11 แห่งเพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่ จากรายงานของทางการกรุงปักกิ่ง
ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายแห่งระบุว่า มีคำสั่งให้พวกเขาส่งพนักงานในร้านไปตรวจหาไวรัส แต่มีคิวยาวมากที่ศูนย์ตรวจ
กรุงปักกิ่งมีศักยภาพในการตรวจได้ถึง 90,000 รายต่อวัน และมีการสอบสวนโรคเพื่อตรวจสอบแรงงานทุกคน คนที่มาเยือน และคนที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้
ทางการระบุว่า มีประชาชนประมาณ 200,000 คนที่เคยเดินทางไปตลาดแห่งนี้ตั้งแต่ 30 พ.ค.เป็นต้นมา และมีการตรวจหาไวรัสกับทุกคนและมีการแยกกักตัว
ขณะเดียวกัน มณฑลอื่นๆในจีนมีมาตรการป้องกันนักเดินทางที่มาจากกรุงปักกิ่ง หลังจากมณฑลเสฉวน เหลียวหนิง และเหอเป่ยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มาจากกรุงปักกิ่ง โดยเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นครเซี่ยงไฮ้ระบุให้นักเดินทางจากกรุงปักกิ่งต้องกักตัว 14 วัน ขณะที่เฮยหลงเจียงกำหนดให้ผู้ที่มาจากเมืองหลวงต้องตรวจทดสอบไวรัส
กรุงปักกิ่งเพิ่งเริ่มคลายล็อก หลังจากเกือบ 2 เดือนที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย โดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ทางเมืองได้ลดระดับการรับมือจากเหตุฉุกเฉินลงมาอยู่ที่ระดับ 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่บริหารในเขตเฟิงไท่ และผู้จัดการทั่วไปของตลาดซินฟาตี้ถูกไล่ออก
ทั้งนี้ ทางการกรุงปักกิ่งมุ่งมั่นที่จะทำให้เมืองที่มีประชากร 20 ล้านคนสามารถป้องกันการระบาดรอบใหม่ และทำให้งานกำจัดไวรัสโคโรนาส่งผลอย่างใหญ่หลวงกับเขตที่ได้รับผลกระทบ