สิงคโปร์ว่างงานสูงสุดในรอบ 10 ปี
สิงคโปร์ : อัตราการว่างงานในสิงคโปร์พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบทศวรรษ และตัวเลขการจ้างงานลดลงต่ำสุดในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยตลาดแรงงานได้รับผลกระทบเบื้องต้นจากการระบาดของโควิด – 19
อ้างอิงจากรายงานตลาดแรงงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงานเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. อัตราการว่างงานโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.3% ในไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.4%
โดยอัตราการว่างงานในบรรดาพลเมืองสิงคโปร์เพิ่มขึ้นจาก 3.3% ขึ้นมาเป็น 3.5% และในบรรดาผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นพลเมืองสิงคโปร์และผู้อยู่อาศัยถาวร ปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.2% มาอยู่ที่ 3.3%
อัตราการว่างงานระยะยาวของผู้อยู่อาศัย ซึ่งมีเกณฑ์วัดจากบุคคลที่ว่างงานอย่างน้อย 25 สัปดาห์ ยังคงอยู่ที่ 0.9%
ทางกระทรวงแรงงานพบว่า พนักงานในประเทศ 1,537 รายได้รับผลกระทบจากการปิดธุรกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งมากกว่าเป็นสองเท่าจากเดิม 628 รายในไตรมาสก่อนหน้า
มีพนักงาน 4,190 รายที่ถูกลดชั่วโมงการทำงาน หรืออนุญาตให้ลาพัก เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากเดิม 840 รายในไตรมาสก่อนหน้า แต่ต่ำกว่า 26,530 รายในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก
ทางกระทรวงระบุว่า นี่หมายความว่า นายจ้างเลือกที่จะปรับเปลี่ยนชั่วคราวเพื่อจัดการกับแรงงานที่มีมากเกินไป และลดค่าใช้จ่ายทางธุรกิจแทนที่จะเลิกจ้างพนักงาน
สัดส่วนตำแหน่งงานว่างเมื่อเทียบกับจำนวนคนว่างงานดิ่งร่วงลงมากที่สุดในรอบทศวรรษ จาก 0.84 ลงมาอยู่ที่ 0.71 ในไตรมาสแรก นี่หมายความว่าอาจมีแค่ 7 อัตรางานสำหรับคนว่างงาน 10 คนในสิงคโปร์
มีงานว่าง 46,300 อัตราในเดือนมี.ค.ปีนี้ เมื่อเทียบกับ 52,700 อัตราในเดือนธ.ค.เมื่อปีที่แล้ว
อาหารและเครื่องดื่ม, ศิลปะและบันเทิง และภาคส่วนบริหารมีตำแหน่งงานลดลง ขณะที่มีการเปิดตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นในภาคส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศและการดูแลสุขภาพ
การจ้างงานโดยรวม ไม่นับรวมแรงงานในประเทศ มีการหดตัวมากที่สุดในรอบไตรมาส โดยหดตัวลง 25,600 อัตราในไตรมาสแรก หลังจากมีการเติบโต 19,800 อัตราในไตรมาสก่อน มากกว่าที่กระทรวงแรงงานเคยประเมินเบื้องต้นในเดือนเม.ย.ว่าจะมีการหดตัวลง 19,900 อัตรา
ขณะที่การค้าและท่องเที่ยว (อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง) รวมทั้งการก่อสร้าง ไม่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากการลดการจ้างงาน
อัตราการจ้างงานในส่วนอาหารและเครื่องดื่ม ก่อสร้างและค้าปลีก ซึ่งเป็น 3 ภาคส่วนที่มีการจ้างงานลดลงมากที่สุด ลดลง 8,300 อัตรา 5,800 อัตรา และ 5,400 อัตราตามลำดับในไตรมาสเดือนม.ค. – มี.ค.
ก่อนหน้าการแถลงรายงานในวันที่ 12 มิ.ย. Josephine Teo รมว.กระทรวงแรงงานเตือนว่า ผมกระทบเต็มรูปแบบจากโควิด-19 ยังไม่รู้สึกในไตรมาสแรก
กิจกรรมในเดือนม.ค.ยังคงสูงอยู่ในช่วงการฉลองเทศกาลปีใหม่ และแม้การท่องเที่ยวถูกกระทบอย่างหนักตั้งแต่เดือนก.พ. ยังไม่มีการคุมเข้มการเดินทางเป็นส่วนใหญ่ และยังไม่มีมาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์จนกระทั่งเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต รมว.Teo ระบุว่า สิงคโปร์ต้องพร้อมรับมือกับการเลิกจ้างที่จะมีมากกว่านี้ และเพื่อช่วยผู้ที่สูญเสียงาน
“ เราต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยสนับสนุนเรื่องงานให้คนี่มองหางาน” เธอกล่าว โดยชี้ถึงยุทธศาสตร์เรื่องงานที่ตั้งเป้าจะสร้างโอกาสงานประมาณ 100,000 อัตรา โดยยุทธศาสตร์บางส่วนคือให้หน่วยงานรัฐมีแผนการจ้างงานเพิ่ม.