อินเดียติดเชื้อทะลุแสน ตาย 3 พัน
นิวเดลี (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 19 พ.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอินเดียสูงถึง 100,000 ราย เท่ากับจำนนวนเตียงผู้ป่วยในห้องไอซียูทั่วประเทศ ขณะที่ตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่มีสัญญาณที่ชะลอตัวลง
อินเดียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,970 รายในรอบ 24 ชม. ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมจากโรคระบาดนี้สูงถึง 101,139 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 134 รายมาอยู่ที่ 3,163 ราย
ทำให้จนถึงตอนนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียสูงแซงจีน ซึ่งไวรัสอุบัติขึ้นครั้งแรกในปีที่แล้ว และเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดของโลกมาก่อน
จีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำกว่า 83,000 ราย แต่ในสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเป็นเลขหลักเดียว ตรงข้ามกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอินเดียเฉลี่ยกว่า 4,000 รายในแต่ละวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากรายงานตัวเลขทางการของรอยเตอร์ แม้จะมีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดนานหลายสัปดาห์ก็ตาม
โดยอินเดียขยายเวลาล็อกดาวน์จาก 17 พ.ค. ออกไปจนถึง 31 พ.ค. แม้หลายรัฐชี้ว่า จะอนุญาตให้ธุรกิจเปิดทำการได้อีกครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกังวลในอินเดียเกี่ยวกับการระบาดที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบโรงพยาบาลมีเงินงบประมาณไม่เพียงพอ
Dhruva Chaudhry ประธาน Indian Society of Critical Care Medicine กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อเดือนเม.ย.ว่า อินเดียมีเตียงในห้องไอซียูประมาณ 100,000 เตียง และมีเครื่องช่วยหายใจ 40,000 เครื่อง จากการประเมินและข้อมูลสนับสนุนอื่นๆ
Chaudhry เตือนว่า ไม่มีโครงสร้างพื้นฐาน หรือเจ้าหน้าที่เพียงพอในประเทศที่มีประชากรมากถึง 1,350 ล้านคนในการดูแลรักษาผู้ป่วยอาการหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่ว่าผู้ป่วยทุกคนจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในอินเดีย เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าตัวเลขทางการต่ำกว่าความเป็นจริง
อินเดียไม่แจ้งข้อมูลที่ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้ทางการจะระบุว่ามีผู้หายป่วยและกลับบ้านได้แล้วประมาณ 37,000 ราย
การติดเชื้อส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่อย่างนครมุมไบ กรุงนิวเดลี อาห์เมดาบัด และเชนไน
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้ในอินเดียยังคงต่ำกว่าประเทศอื่น โดยอัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3% เมื่อเทียบกับ 6% ในสหรัฐฯ 14% ในสหราชอาณาจักรและอิตาลี และ 15% ในฝรั่งเศส