‘ทรัมป์’ จ่อระงับอพยพเข้าสหรัฐฯชั่วคราว
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ในระหว่างการร่างคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในช่วงคืนก่อนหน้านี้ว่า เขาจะระงับการอพยพเข้าสหรัฐฯ ชั่วคราวเนื่องจากประเทศกำลังต่อสู้กับผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด -19
“ จากการโจมตีของศัตรูที่มองไม่เห็น รวมถึงความจำเป็นในการปกป้องงานของพลเมืองอเมริกัน ผมจะลงนามในคำสั่งพิเศษในการระงับการอพยพเข้าสหรัฐฯ ชั่วคราว ! ” ทรัมป์ทวีต
โดยคณะทำงานกำลังร่างคำสั่งพิเศษนี้ จากข้อมูลของทางการสหรัฐฯ แต่หวังว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่วันเพื่อพร้อมให้ทรัมป์ได้ลงนาม ขณะที่ยังมีการเกลาข้อความในขั้นตอนสุดท้าย คาดการณ์ว่าคำสั่งนี้จะระงับการออกกรีนการ์ดและวีซ่าทำงานใหม่เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพท่ามกลางการระบาด
เจ้าหน้าที่คณะทำงานกล่าวกับสื่อ CNN ว่า คำสั่งพิเศษจะทำให้มีการระงับการอพยพเข้าเมืองชั่วคราวนาน 120 วัน หรือระงับการออกวีซ่าทำงานเพื่อบรรเทาความกังวลด้านการว่างงานที่เกี่ยวข้องกับการระบาดในสหรัฐฯ
เป้าหมายอื่นๆ ของคำสั่งยังคงไม่ชัดเจนภายในคณะทำงาน ทั้งฝ่ายกฎหมายที่ทรัมป์ต้องพึ่งพาและองค์ประกอบอื่นของการอพยพเข้าเมือง ทั้งการย้ายถิ่นฐานเข้าเมืองของครอบครัวและอาจรวมข้อยกเว้นที่อาจเกิดขึ้นได้
คาดการณ์ว่าคำสั่งจะรวมข้อยกเว้นสำหรับแรงงานในฟาร์มและผู้ดูแลสุขภาพ จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ แต่อาจยกเว้นแรงงานอื่นที่ “สำคัญ” ด้วย
โดยรัฐบาลยังขยายคำสั่งห้ามเดินทางที่นอกเหนือคำสั่งห้ามในปัจจุบันคือจากจีนและยุโรปด้วย คำสั่งนี้จะมีผลกับการดำเนินการที่ด่านพรมแดนสหรัฐฯ และผู้ที่ถือกรีนการ์ดที่ไม่ชัดเจน
รัฐบาลทรัมป์พยายามที่จะผลักดันนโยบายเข้มงวดที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ในช่วงก่อนหน้าการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งการห้ามผู้อพยพลี้ภัยเดินทางเข้าสหรัฐฯ
“ นี่ไม่เกี่ยวกับนโยบาย นี่เกี่ยวกับสารที่ประธานาธิบดีต้องการจะส่งออกมา เขาต้องการให้ประชาชนหันหลังให้คนอื่น และเขามองว่า การอพยพเข้าเมืองเป็นเรื่องง่ายที่สุดที่จะกล่าวโทษ” อาลี นูรานี ผอ.บริหารของ National Immigration Forum ระบุบนทวิตเตอร์
ทวีตของทรัมป์มีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศจากการชัทดาวน์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยังเป็นการทำตามสัญญาที่จะชะลอการอพยพเข้าเมืองของชาวต่างชาติในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559
ทรัมป์ย้ำถึงการตัดสินใจของเขาในการระงับการเดินทางจากจีนและยุโรป เพื่อเป็นการสกัดการระบาดของไวรัสโควิด -19 ในสหรัฐฯ
จากการย้ำถึงกลุ่มคนที่ไม่ได้คัดกรองที่ข้ามด่านพรมแดนทางใต้เข้าประเทศสหรัฐฯ ทรัมป์ระบุเมื่อเดือนมี.ค.ว่า จะมีการปิดพรมแดน “เป็นส่วนใหญ่ และนานกว่านั้น แต่ส่วนใหญ่ในช่วงการระบาดทั่วโลก” โดยคำสั่งห้ามเดินทางยังคงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 เม.ย. โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิประกาศว่าจะขยายคำสั่งให้ครอบคลุมด่านพรมแดนเม็กซิโกและแคนาดาด้วย
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลยังมีคำสั่งให้มีการเคลื่อนย้ายผู้อพยพที่ถูกจับกุมตัวที่ชายแดนอย่างรวดเร็ว รวมถึงเด็กๆด้วย