แจ็ค หม่าบริจาคชุดตรวจไวรัส/หน้ากากให้สหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียประกาศเจตนารมณ์ว่าจะจัดส่งชุดตรวจไวรัสโควิด – 19 ทั้งหมด 500,000 ชุด และหน้ากากอนามัยจำนวน 1 ล้านชิ้นไปให้สหรัฐฯ เพื่อช่วยในการต่อสู้กับโรคระบาดที่เป็นหายนะครั้งใหม่ของโลก
โดยมูลนิธิอาลีบาบา ซึ่งเป็นมูลนิธิการกุศลของมหาเศรษฐี แจ็ค หม่า และเป็นมูลนิธิที่ตั้งอยู่ที่บริษัทของเขา ยังเป็นแหล่งที่มาของการบริจาคสิ่งของต่างๆ ไปยังประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสอีกด้วย ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน และสเปน ( อาลีบาบาเป็นเจ้าของสื่อเซาธ์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ด้วย )
การบริจาคของหม่ามีขึ้นท่ามกลางระบบการตรวจทดสอบไวรัสที่ล่าช้าทั่วประเทศสหรัฐฯ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ขาดแคลนอุปกรณ์ในห้องแล็บ และก่อให้เกิดความกังวลว่า กระทรวงสาธารณสุขนับจำนวนชาวอเมริกันที่ติดเชื้อไวรัสต่ำกว่าความเป็นจริง
“ จากประสบการณ์ในประเทศของผม การตรวจที่รวดเร็วและถูกต้อง และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการระบาดของไวรัส” แถลงการณ์ระบุ “ เราหวังว่าการบริจาคของเราจะสามารถช่วยชาวอเมริกันให้ต่อสู้กับกับโรคระบาดได้ ! ”
คำประกาศของหม่ายังมีขึ้นในช่วงเวลาที่บรรดาผู้ช่วยและพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวโทษจีน โดยเจ้าหน้าที่บางคนเรียกว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่าเมืองอู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางของการระบาดของไวรัส
โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งสหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าปกปิดข้อมูลวิกฤตสาธารณสุข ขณะที่ไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกการระบาดนี้ว่า “ ไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น”
“ วิกฤตที่มีอยู่เป็นความท้าทายครั้งใหญ่กับมนุษยชาติในโลกยุคโลกาภิวัตน์ โรคระบาดที่เราเผชิญในวันนี้ไม่อาจแก้ไขได้โดยแต่ละประเทศแบบปัจเจก” หม่าระบุในแถลงการณ์
“ ที่สำคัญคือเราจำเป็นต้องต่อสู้กับไวรัสด้วยการประสานความร่วมมือกัน ในช่วงเวลานี้ เราไม่อาจชนะไวรัสได้ นอกเสียจากเราจะทลายพรมแดนเพื่อเข้าถึงแหล่งทรัพยากร และแบ่งปันการเรียนรู้และถอดบทเรียนที่ยากจะได้มาร่วมกัน”