“7UP” กดปุ่ม โรงไฟฟ้าประชารัฐชายแดนใต้ ปลายปีนี้
7UP คาดปลายปี 2563 สามารถ COD โรงไฟฟ้าประชารัฐบันนังสตา และแม่ลาน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตร้อยละ 15
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 63 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตเกินระดับ 15% จากธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ และเริ่มรับรู้ผลจากการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานอื่น ๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่ต้องการก้าวสู่การเป็นบริษัทพลังงานอย่างแท้จริง เพื่อสร้างเสถียรภาพในแง่ของผลประกอบการ เนื่องจากเล็งเห็นว่าธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจที่มีรายได้อย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันบริษัทได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส กำลังการผลิตไฟฟ้า 2 เมกะวัตต์ (MW) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าประชารัฐบันนังสตา จ.ยะลา และโรงไฟฟ้าประชารัฐแม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งคาดว่าจะสามารถ COD ได้ช่วงปลายปี 63
สำหรับธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างรายได้ และ กำไรจากการบริการกำจัดกากอุตสาหกรรมด้วยวิธีการฝังกลบที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ให้เติบโตกว่าปี 62 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยีการเผาขยะด้วยอุณหภูมิสูง ในช่วงไตรมาสที่ 2/64 ทั้งนี้ พลังงานความร้อนจากการเผากากอุตสาหกรรมดังกล่าว สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ภายในโรงงาน ส่งผลให้บริษัทสามารถประหยัดต้นทุนทางด้านพลังงาน และ สามารถนำพลังงานไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้ภายในโรงงานไปต่อยอดธุรกิจในเชิงพาณิชย์ได้
ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ได้เริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 62 ที่ผ่านมา และในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากบริษัทจะทำการตลาดเชิงรุกสำหรับตลาดในประเทศและ มีแผนการขยายขอบเขตการให้บริการไปยังต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยื่นขอจดอนุสิทธิบัตรจาก 12 ประเทศในแถบกลุ่มประเทศอาเซียน
“บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการงบปี 62 พลิกมีกำไรสุทธิได้ตามที่เคยให้คำมั่นกับผู้ถือหุ้นไว้ และบริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อไป โดยมุ่งเข้าสู่การเป็นบริษัทพลังงานโดยแท้จริง เร่งล้างขาดทุนสะสมที่มีจำนวน 1,256 ล้านบาทให้หมดโดยเร็ว เพื่อให้บริษัทกลับมามีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผล สร้างผลตอบแทนคืนให้กับผู้ถือหุ้นโดยเร็ว”นายสิทธิชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 62 พลิกมีกำไรสุทธิ 86.61 ล้านบาท จากปีก่อนหน้ามีผลขาดทุนสุทธิ 79.53 ล้านบาท นับว่าทำกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี สืบเนื่องจากรายได้เติบโต 49.88% มาที่ 1,139 ล้านบาท นับว่าสูงกว่าเป้าหมายที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตในอัตรา 15-20% โดยรายได้หลักมาจากรายได้จากการขายและบริการ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และน้ำมัน จำนวน 755.63 ล้านบาท ขณะที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1,594.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า.