สหรัฐฯชี้ไวรัสกระทบศก.เห็นชัดใน 3 – 4 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. สตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯจะเห็นภาพชัดเจนของผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจใน 3 – 4 สัปดาห์หน้า
ในการให้สัมภาษณ์ในระหว่างการประชุมกลุ่มประเทศ G-20 ที่กรุงริยาดห์ ซาอุดิอาระเบีย รมว.มนูชินระบุว่า ยากที่จะทำนายผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสในตอนนี้
“ ผมคิดว่า เราต้องการเวลาอีก 3 – 4 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลกระทบจากไวรัส จนกว่าเราจะมีข้อมุลทางสถิติที่ดี” เขากล่าว
“ แม้ว่าอัตราการระบาดของไวรัสจะชัดเจน แต่อัตราการเสียชีวิตยังไม่มาก เป็นสิ่งที่เราจับตามองอย่างระมัดระวัง เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราปรึกษากัน เราคุยกันที่นี่เรื่องการเตรียมพร้อม แต่ผมคิดว่าเราอยู่ในจุดที่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามันน่ากังวล หรือไม่น่ากังวล”
มนูชินยังกล่าวกับสื่อว่า เขาไม่เชื่อว่า รัฐบาลจีนได้ตระหนักถึงอันตรายจากไวรัสในช่วงเวลาที่คณะผู้แทนจากจีนเดินทางไปทำเนียบขาวเพื่อลงนามในข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐฯ เฟส 1 ในเดือนม.ค.
“ ผมคิดว่า รัฐบาลจีนมีการรับมือได้เร็วกว่าที่เคยทำในสถานการณ์ครั้งก่อน” เขาระบุ “ ไม่มีคำถามเลยในเรื่องที่จีนมุ่งมั่นในการควบคุมไวรัส และข้อตกลงในเฟส 2 จะชะลอตัวลงไปบ้าง”
เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯมีแผนสำรองในแง่งบประมาณในการรับมือไวรัสหรือไม่ เขากล่าว่า ไม่ต้องถามในเรื่องนี้เลย อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 จะกระทบเศรษฐกิจโลกมากแค่ไหน
“ ผมคิดว่า จากทุกอย่างที่เราเห็นตอนนี้ก็จัดการได้ แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ อย่างที่ผมบอก ข่าวดีคือในอีก 3 – 4 สัปดาห์ เราจะมีข้อมูลที่ดีขึ้น” เขากล่าวกับสื่อ
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. Kristalina Georgieva กรรมการผู้อำนวยการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ระบุในการประชุม G-20 ว่า ไวรัสมีแนวโน้มจะบั่นทอนการเติบโตทั่วโลกในปีนี้ลง 0.1% ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนจะทรุดตัวลงอยู่ที่ 5.6% ต่ำกว่าที่ IMF เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. 0.4%
“ ผมไม่คิดว่าเราควรจะตื่นกลัว แม้ว่ามันน่ากังวลก็ตาม” มนูชินกล่าวกับสื่อ “ ข่าวดีคือ คนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจะรอด เห็นชัดว่ามีพื้นที่ซึ่งประชากรมีความเสี่ยงสูง แต่เราไม่ควรสนใจแค่จำนวนผู้ติดเชื้อ ผลกระทบจริงๆคือ มีกี่คนที่ได้รับผลกระทบอย่างที่สุดในแง่ของอัตราการเสียชีวิต ? ”
จากผลการศึกษาเรื่องโควิด-19 ที่ตีพิมพ์ในสัปดาห์นี้ นักวิจัยของจีนประเมินว่า อัตราการเสียชีวิตจากไวรัสอยู่ที่ 2.3% โดยผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้วมีความเสี่ยงสูง จากการวิจัย 81% ของผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการเหมือนคนเป็นหวัด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน ซึ่งอาจทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าที่ประเมินในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 97 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 648 รายในวันที่ 22 ก.พ. ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 76,936 ราย.