“ซีแพนเนล” ชูกลยุทธ์เจาะรับเหมา-อสังหาฯตั้งเป้าโต5-10%
CPanel เผยแนวโน้มธุรกิจปี 63 โตต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ขยายฐานกลุ่มลูกค้า เสริมพอร์ตเพิ่มความแข็งแกร่ง โฟกัสผู้รับเหมา-อสังหาฯ รายกลางและรายใหญ่ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี ลดต้นทุนการผลิต ลุ้นเซ็นสัญญาลูกค้าใหม่ โชว์แบ็กล็อกมูลค่า 380 ล้านบาท
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (CPanel) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป กล่าวว่าในปี 2563 ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทปรับกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าเดิม พร้อมขยายฐานกลุ่มลูกค้ารายใหม่ เสริมพอร์ตเพิ่มความแข็งแกร่ง เน้นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายกลางและรายใหญ่ ที่มีรูปแบบโครงการและอาคารที่หลากหลาย และมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนการผลิต โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์การผลิต เพื่อลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และลดความผิดพลาดหรือความสูญเสียในการผลิต เพื่อผลิตชิ้นงานได้มีคุณภาพมากขึ้น
“ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังคงชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ฉุดยอดขาย ยอดโอนกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายมีการลดสต๊อกสินค้าในช่วงไตรมาส 4/62 ต่อเนื่องถึงช่วงไตรมาส 1/63 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้รับเหมาปรับกลยุทธ์ ลดต้นทุนการก่อสร้าง ลดจำนวนแรงงาน บริหารความเสี่ยง ลดเวลาการก่อสร้างเพื่อลดสต๊อกและใช้วัสดุที่ทำให้การก่อสร้างเสร็จเร็วมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณคำสั่งซื้อในช่วงไตรมาส 2/63 แล้ว”
ปัจจุบัน บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการสัมมากรสุวรรณภูมิ โครงการ Golden NEo บางนากิ่งแก้ว โครงการ บริทาเนีย เมกะทาวน์ บริทาเนีย หทัยราษฎร์ โครงการของเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ โครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค อ่อนนุช และอื่นๆ นอกจากนี้ อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการงานก่อสร้างอาคารภาครัฐ งานอาคารสำนักงาน และคอมมูนิตีมอลล์ ซึ่งถือเป็นการขยายโอกาสในการรับงานให้มีความหลากหลายมากขึ้น และอยู่ระหว่างยื่นเสนออีกหลายโครงการ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า จำนวน 15 ราย มีมูลค่างานในมือ (Backlog) 380 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ใน 2 ปี ขณะที่กำลังการผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูปของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 60% โดยบริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตปีนี้อยู่ที่ 5-10% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 326-340 ล้านบาท.