SCN ลุยโซลาร์รูฟท็อป 110 MV 3,000 ลบ.
SCN มั่นใจ ผลการดำเนินงาน ปี 63 เติบโตไม่หยุด หลังปรับแผน และทิศทางของธุรกิจ วางเป้าขยายลงทุนโซลาร์ รูฟท็อป 4 ปี กว่า 110 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สแกน อินเตอร์ (SCN) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจ หลังภาพรวมในปี 62 ได้ปรับแผน เป้าหมาย กลยุทธ์ และทิศทางของธุรกิจ เน้นเดินเกมรุก แบบ 3+1 นั่นคือ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ NGV, ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจโลจิสติกส์ ทำให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องทั้งปี โดยสัญญาณที่ดีตั้งแต่ต้นปีที่ทางบริษัทได้ส่งมอบรถเมล์ NGV ทั้งหมดจำนวน 489 คัน ให้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1,891 ล้านบาท อีกทั้งยังได้เป็นผู้ดูแลงานบำรุงและซ่อมแซมตามสัญญา เป็นระยะเวลา 10 ปี มูลค่ากว่า 2,370 ล้านบาท
ต่อมาในเดือน มิ.ย.SCN ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งสมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการประกอบการธุรกิจก๊าซธรรมชาติให้แข็งแกร่ง กระตุ้นให้รัฐบาลหนุนการใช้ก๊าซ NGV ซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยมีอยู่ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่จะสามารถสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านคมนาคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอย่าง PM 2.5 อีกด้วย
และในช่วงปลายเดือน มิ.ย.ได้รับเกียรติจาก นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ เป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สุดในอาเซียน และเมื่อวันที่ 15 พ.ย.62 บริษัทได้รับหนังสือแจ้งวันเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) อย่างเป็นทางการ สำหรับ phase 1 ของโรงไฟฟ้ามินบู กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีโดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.62 เป็นต้นไป
โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 292 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 10,000 ล้านบาท ได้รับความร่วมมือจาก 4 ผู้ลงทุน ได้แก่ SCN-ECF-META-NP ซึ่งในวันที่ 24 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา SCN ได้เข้าเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 10% ส่งผลให้บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการเพิ่มเป็น 40%
นายฤทธี กล่าวว่า SCN ยังได้จับมือกับ 2 พันธมิตร ร่วมลงทุนในโซลาร์ รูฟท็อป ภายใต้ บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด เมื่อเดือน ต.ค.62 เพื่อเข้าลงทุนในสัญญาซื้อขายไฟภาคเอกชน (Private PPA) โดยบริษัทได้เซ็นต์สัญญาลูกค้ากลุ่มแรก ขนาดกำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 4 ปี ขยายกำลังการผลิตรวมกว่า 110 เมกะวัตต์คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ SCN ได้ทำการจัดตั้ง บริษัท แพนเทอรา มอเตอร์ส จำกัด ขึ้นมาเพื่อรองรับงานประมูลรถโดยสารสำหรับงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน รวมไปถึงการผลิต ติดตั้ง และประกอบรถโดยสารทุกประเภท ที่มีมาตรฐานสูงสุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ยัง จำหน่าย ให้เช่า และให้บริการหลังการขายรถโดยสารทุกประเภทแก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเปิดตัวรถมินิบัส ยี่ห้อ Bonluck หรือ BLK รถโดยสารขนาดเล็ก รุ่น Panthera ขนาด19+1 ที่นั่ง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ ดีเซล และ NGV และ รถโดยสารขนาดใหญ่ หรือ รถ Coach โดยรถทั้งหมดได้ถูกออกแบบโครงสร้างมาเป็นพิเศษ ด้วยความแข็งแรง ทนทาน เน้นความปลอดภัยของคนขับและผู้โดยสารเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ บริษัทได้จำหน่ายกิจการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (Auto Dealer) ยี่ห้อ Mitsubishi ของบริษัทจำนวน 2 แห่ง โดยบริษัทมีนโยบายที่จะนำรายได้จากการจำหน่ายกิจการไปลงทุนต่อในธุรกิจต่างๆ ที่กล่าวในข้างต้น โดยกำหนดผลตอบแทน (IRR) ขั้นต่ำที่ 10%.