อิงหลักเกณฑ์เดิมเก็บภาษีโซลาร์รูฟ
กกพ. หารือ กรมสรรพากร จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โซลาร์รูฟท็อป สัปดาห์หน้า บีซีพีจี คาด นำหลักกฎเกณฑ์การเสียภาษีเดิมขายไฟฟ้าเกิน 1.5 ล้านบาทต่อปี จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม มาร่วมพิจารณา
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัปดาห์หน้ากรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะมีการหารือเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการขายไฟฟ้า โครงการนำร่องแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าทางอินเตอร์เน็ต ที่โครงการที 77 (T77) เมกะโปรเจ็กต์ของแสนสิริ โดยบริษัทเป็นผู้ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟด้วยงบลงทุน 30-50 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จและซื้อขายจริงในเดือน ก.ย.นี้
“ ขณะนี้หน่วยงานอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเตรียมหารือกับ กกพ. เกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์ เนื่องจากในอนาคตจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ในฐานะภาคเอกชนที่ผลิตไฟฟ้ามองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อรัฐจะได้มีรายได้ดูแลระบบ ซึ่งหลักกฎเกณฑ์การเสียภาษีเดิม กำหนดว่าหากประชาชนมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเกิน 1.5 ล้านบาทต่อปีจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ” นายบัณฑิต กล่าว
ทั้งนี้บริษัท บีซีพีจี ยังตั้งเป้าขยายโครงการความร่วมมือกับทางแสนสิริอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2563 จะเพิ่มเป็น 2 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันบีซีพีจียังมองโอกาสการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันดีเซลจึงมีต้นทุนค่าไฟสูง ดังนั้นเทคโนโลยี Blockchain จึงมีโอกาสเข้าไปได้.