ธ.โลกชู “ไทย-กบข.” โชว์ “เงินสีเขียว”
ธนาคารโลกชูไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค นำระบบการเงิน “สีเขียว” สร้างความยั่งยืน หนุน กบข.นำแนวทางสากลปรับใช้ลงทุน พ่วงหาเครื่องมือนำทางสู่ความเป็นเลิศของตลาดการเงินในไทย ด้านเลขาฯกบข. ย้ำ เป็นครั้งแรกในอาเซียน พร้อมกระดับลงทุนสู่การเป็น Sustainable Pension เต็มรูปแบบ
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือด้าน Technical Cooperation on Sustainable Investment ระหว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กับธนาคารโลก (World Bank) เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ธ.ค.62
ด้าน นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ กบข. กล่าวกบข.และธนาคารโลกได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันจัดทำ โครงการความร่วมมือทางเทคนิคด้านการบริหารเงินทุนเพื่อความยั่งยืนระหว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และ ธนาคารโลก (Technical Co-Operation on Sustainable Investment between Government Pension Fund and World Bank) สำหรับปี 63 โดยโครงการนี้ ถือเป็นความร่วมมือแรกที่ธนาคารโลกให้ความร่วมมือกับกองทุนบำนาญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีวัตถุประสงค์ของความร่วมมือดังกล่าว คือ เพื่อยกระดับกระบวนการลงทุนของ กบข. ที่ได้มีการนำปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social & Governance: ESG) มาผสานในกระบวนการลงทุนมาตั้งแต่ปี 62 ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับกองทุนบำนาญระดับโลก และสอดคล้องแนวปฏิบัติเพื่อการลงทุนอย่างรับผิดชอบของ PRI ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยสหประชาชาติเพื่อจัดทำและส่งเสริมมาตรฐานดังกล่าว (The United Nations-supported Principles for Responsible Investment : PRI) และ กบข. ได้ร่วมเป็นสมาชิกในปี 62 ทั้งนี้ กบข. และธนาคารโลกมีเป้าหมายร่วมกันที่จะให้ กบข. เป็นต้นแบบ “กรณีศึกษาต้นแบบ” (Showcase) ของกองทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการบริหารจัดการเงินลงทุน โดยใช้ปัจจัยด้าน ESG อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับรายละเอียดลักษณะความร่วมมือครั้งนี้ มีอยู่ด้วยกัน 4 ประการ คือ 1.การจัดทำแผนกลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัย ESG 2.การนำปัจจัย ESG มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการบริหารจัดการลงทุนของ กบข. รวมถึงพัฒนาระบบคะแนนด้านความยั่งยืน (ESG Scoring System) เพื่อใช้ในการประเมินมูลค่าตราสารทุนและตราสารหนี้ในการลงทุน 3.การจัดทำแนวทางนำปัจจัย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการสรรหาผู้จัดการกองทุนภายนอก และ 4.การจัดทำกรอบการกำกับ ติดตาม และจัดทำรายงานผลการดำเนินกลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัย ESG มาใช้ของ กบข.
นายวิทัย กล่าวอีกว่า การร่วมมือกับธนาคารโลกในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญและสอดคล้องกับเป้าหมายเป็นผู้นำและผู้ริเริ่มนวัตกรรมด้านการลงทุนโดยคำนึงปัจจัย ESG (Leader in ESG Investing and Initiatives) ของ กบข. โดยในปีที่ผ่านมา กบข. ได้ริเริ่มหลากหลายแผนงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว อาทิ จัดตั้ง ESG-focused Portfolio ที่มีการลงทุนเฉพาะหุ้นไทยที่คำนึงปัจจัย ESG และเป็นการนำ THSI Index ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาใช้เป็นรายแรกของไทย ริเริ่มโครงการลงนามประกาศเจตนารมณ์แนวปฏิบัติ “การระงับลงทุน” (Negative List Guideline) กับบริษัทจดทะเบียนที่มีประเด็นปัญหา ESG มีนักลงทุนสถาบันร่วมลงนาม 32 ราย ปรับกระบวนการลงทุนของ กบข. โดยนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในทุกขั้นตอน (ESG Integration into Investment Process) นำปัจจัย ESG มาเป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกผู้จัดการกองทุนภายนอก เป็นผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) เป็นต้น
ด้านนางเบอร์กิท ฮานสล์ ผจก.ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกมีความยินดีอย่างมากที่จะทำงานร่วมกันกับ กบข. และหน่วยงานกำกับตลาดการเงิน เพื่อช่วยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติการทางการเงินที่เป็นสีเขียวและความยั่งยืน ทั้งนี้ ธนาคารโลกหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ กบข.สามารถนำวิธีการทางการเงินเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลมาปรับใช้ในกระบวนการลงทุนและจัดหาเครื่องมือเพื่อที่จะนำทางและสร้างความเป็นเลิศในตลาดการเงินภายในประเทศของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป.