ชี้วันแรกจอง“บ้านดีมีดาวน์”พุ่ง 4.3 หมื่นคน
“บ้านดีมีดาวน์” เปิดลงวันแรกคึก! ยอดลงทะเบียนทะลุ 4.3 หมื่นคน “อุตตม” ย้ำ ให้คนมีคุณสมบัติตามทีกำหนดแค่ 1 แสนรายแรกเท่านั้น ระบุจากนี้ “คลัง” จะเร่งตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนที่ ธอส.จะส่งเงิน 50,000 บาทผ่านพร้อมเพย์ มั่นใจคนไทยมีบ้านง่ายขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจอสังหาฯเดินหน้าได้ต่อ
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” เพิ่งเปิดรับลงทะเบียนในวันนี้ (11 ธ.ค.62) เป็นวันแรก ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการที่ภาครัฐช่วยลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย 50,000 บาท แก่ประชาชน 1 แสนรายแรกที่มีคุณสมบัติตามกำหนดไว้ คือ มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ จากการรายงานเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น. พบว่า มียอดลงทะเบียนแล้วกว่า 43,000 ราย โดยจากนี้ไป กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวจะไปตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนว่าตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่
ด้าน นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเปิดลงทะเบียน “โครงการบ้านดีมีดาวน์” ในวันแรก ระบบมีความพร้อมในการรองรับการลงทะเบียนผ่านwww.บ้านดีมีดาวน์.com เป็นอย่างดี โดย ณ เวลา 13.00 น. มีผู้ลงทะเบียนแล้วจำนวน 40,906 ราย ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนแล้วระบบจะใช้เวลาตรวจสอบรอบแรก 3 วันทำการ และจะได้รับ SMS แจ้งผลการตรวจสอบคุณสมบัติในรอบแรกว่าได้เป็นผู้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ และหากเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสามารถนำ SMS ดังกล่าวไปแสดงต่อสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการเพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้เข้าร่วมโครงการได้ ในส่วนของการกรอกข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ลงทะเบียนมีเพียงข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ เลขประจำตัว 13 หลัก ชื่อ-สกุล ว/ด/ป เกิด รหัสหลังบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์มือถือและ E-mail
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังกำหนดเวลาในการเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่วันที่11 ธ.ค.62 – 31 มี.ค.63 โดยช่วงแรกจะจำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน 500,000 ราย เพื่อประโยชน์ในการประเมินผลของโครงการฯ โดยในส่วนของคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิยังคงเดิม คือ 1) เป็นผู้มีสัญชาติไทย 2) เป็นผู้อยู่ในระบบฐานภาษีกรมสรรพากรและมีเงินได้ในปีภาษี 61 ไม่เกิน 1,200,000 บาท 3) เป็นผู้ที่มีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยหลังลงทะเบียนระบบจะตรวจสอบคุณสมบัติรอบแรกตามข้อ 1) – 3) และแจ้งผลการตรวจสอบทาง SMS และ 4) เป็นผู้ที่ขอสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ 4.1) เป็นผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและจดจำนองแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.62 ถึง31 มี.ค.63 4.2) เป็นการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ที่สร้างเสร็จแล้วจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมายและ 4.3) ไม่ใช่การกู้เพื่อ refinance โดยสามารถขอสินเชื่อได้จากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการตามรายชื่อสถาบันการเงินที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com โดยผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ 100,000คนแรก จะเป็นผู้ได้รับสิทธิจะได้รับเงินสนับสนุน 50,000 บาท
“โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” เป็นโครงการที่จะช่วยผู้ที่อยู่ระหว่างตัดสินใจซื้อบ้านให้สามารถตัดสินใจซื้อบ้านได้เร็วขึ้น โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐที่สนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อีกทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยคาดว่าโครงการนี้จะช่วยระบาย stock ของที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วและใกล้แล้วเสร็จที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 270,000 ยูนิต เพื่อก่อให้เกิดการลงทุนใหม่และส่งผลดีต่อเนื่องไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำ
ขณะที่ นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ถือเป็นโครงการที่รัฐต้องการช่วยลดภาระให้คนอยากมีบ้าน 50,000 บาทต่อราย แก่ประชาชน 100,000 รายแรก ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการฯ ทั้งนี้ ภายหลังได้รับการยืนยันจากระบบของกระทรวงการคลังว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการฯแล้ว ระบบจะส่งข้อมูลยืนยันมาให้ ธอส. เพื่อดำเนินการโอนเงินให้แก่ประชาชนผ่านระบบพร้อมเพย์ตามบัญชีที่ผูกกับหมายเลขประจำตัวประชาชนต่อไป
“โครงการบ้านดีมีดาวน์ถือเป็นโครงการที่ช่วยลดภาระให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ นอกจากนี้ หากเป็นผู้ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจากผู้ประกอบการ ยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นที่รัฐบาลมอบให้เพิ่มเติม ทั้งการลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดจำนองเหลือเพียงประเภทละ 0.01% และยังมีสิทธิ์ได้รับมาตรการสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 2.5% ต่อปี คงที่ 3 ปีแรกของ ธอส. อีกด้วย” นายฉัตรชัยกล่าว
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง สถาบันการเงิน และผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ ในการดำเนินโครงการ”บ้านดีมีดาวน์”ในครั้งนี้ จะช่วยให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐสามารถบรรลุเจตนารมณ์ในการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ให้มีการขยายตัวอย่างมีศักยภาพในปี 63 ต่อไป.