ตร.ฮ่องกงถอนกำลังจากม. แต่จ่อมีการชุมนุมอีก
ฮ่องกง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ตำรวจถอนกำลังออกจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งฮ่องกง ซึ่งเคยเกิดเหตุปะทะรุนแรงที่สุดในรอบ 6 เดือนของการประท้วง ขณะที่ผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงเรียกร้องเสียงสนับสนุนให้มีการชุมนุมเดินขบวนอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ผู้บริหารของม.โพลีเทคนิคออกสำรวจทั่วมหาวิทยาลัย หลังจากตำรวจถอนกำลังออกไป มีการไปสำรวจโรงอาหารและสนามกีฬา และหน้าต่างที่ถูกทำลาย และกองเศษวัสดุที่เคยใช้เป็นที่ปิดกั้นเส้นทาง
เกือบ 6 เดือนของการประท้วงรุนแรง ฮับการเงินอย่างฮ่องกงดูจะสงบผ่อนคลายลงได้ในสัปดาห์ล่าสุดตั้งแต่การเลือกตั้งของสภาท้องถิ่นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ซึ่งผู้สมัครฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ไปได้อย่างถล่มทลาย
บรรดานักเคลื่อนไหวในฮ่องกงพยายามรักษาโมเมนตัมของการประท้วงไว้ ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อประกาศให้มีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทำให้ทั่วโลกให้ความสนใจฮ่องกงและทำให้จีนไม่พอใจ
“ ชั้นเรียน ห้องแล็บและห้องสมุดถูกทำลายก็จริง แต่ไม่มีการสูญเสียชีวิต เราขอย้ำให้ใช้วิธีการทางมนุษยธรรมเพื่อแก้วิกฤต” เติ้งจินกวง อธิการม.โพลีเทคนิคกล่าวกับผู้สื่อข่าว
เขาระบุว่า ผู้ประท้วงกว่า 1,000 คนออกจากม.ในช่วงสองสัปดาห์ล่าสุด แม้จะมีความเสียหายมากมาย แต่เขาเชื่อมั่นว่า เทอมหน้าจะเปิดเรียนได้ตามกำหนด
รัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งกำลังหาทางบรรเทาความเสียหายจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ออกโรงเตือนวอชิงตันว่า จะมีมาตรการโต้กลับที่เด็ดขาด หลังจากทรัมป์ลงนามรับรอง
กฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกงที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา
มีการวางแผนการชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์ รวมถึงการเดินขบวนโดยนักเรียนโรงเรียนมัธยม เป็นการเดินขบวนเพื่อประท้วงตำรวจที่ฉีดแก๊สน้ำตาใกล้เด็กๆ และเป็นการเดินขบวนเพื่อแสดงความขอบคุณ โดยมีแผนจะเดินขบวนไปที่สถานกงสุลสหรัฐฯ
ขณะที่มีการกำหนดว่าจะมีการชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 8 ธ.ค. โดยผู้จัดงานคือกลุ่ม Civil Human Rights Front ซึ่งเป็นผู้จัดการชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าจะเป็นการปลุกกระแสความเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาได้อีก
ทั้งนี้ ตำรวจฮ่องกงระบุว่า พบระเบิดขวดและวัตถุไวไฟกว่า 3,000 ขวดในมหาวิทยาลัย