กรมศุลฯฉุดยอดแคชเชียร์เช็ค ดัน Bill Payment
กรมศุลการดึง “นายแบงก์-ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก” ร่วมเสวนาใหญ่ หวังลดสัดส่วนจ่ายภาษีอากรผ่านแคชเชียร์เช็คที่มี 37% เหลือให้น้อยสุด ตั้งเป้าปี 63 ต้องเหลือไม่เกิน 10% เพื่อดัน Bill Payment ตอบโจทย์ “สังคมไร้เงินสด”
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวภายหลังเปิดงานเสวนา “การให้บริการรับชำระค่าภาษีอากรทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคารและตัวแทนรับชำระ” ว่า ปัจจุบันมี 8 หน่วยงาน ที่เข้าร่วมโครงการระบบการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Bill Payment) ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา รวมถึงตัวแทนรับชำระ (Non-bank) คือ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ โดยทั้งมีสัดส่วนการจ่ายชำระค่าภาษีอากรทางอิเล็กทรอนิกส์ฯผ่าน Bill Payment สูงถึงกว่า 60% ที่เหลือเป็นการจ่ายผ่านแคชเชียร์เช็ค 37% และเงินสดอีก 2%
ทั้งนี้ กรมศุลกากรพยายามจะดึงเอาผู้ประกอบการที่ยังคงชำระค่าภาษีอากรในรูปของแคชเชียร์เช็คเข้ามาอยู่ในระบบ Bill Payment ให้หมดโดยเร็วที่สุด คาดว่าในปีหน้าจะเหลือสัดส่วนในกลุ่มแคชเชียร์เช็คไม่เกิน 10% และจะทะยอยหมดไปในอนาคต สอดรับกับสถานการณ์และนโยบาย “สังคมไร้เงินสด” ของรัฐบาล ทั้งนี้ การจัดเสวนาข้างต้น รวมถึงการเชิญชวนตัวแทนธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกมาร่วมงานเสวนาฯ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการนำ Bill Payment มาใช้มากขึ้น
“ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กรมศุลกากร และธนาคารกรุงไทย ร่วมกันส่งเสริมระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติของภาครัฐ โดยนำเทคโนโลยีมาให้บริการกับลูกค้าและผู้ประกอบการ เพื่อลดธุรกรรมด้านเงินสดและเช็ค อันจะนำไปสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless society) เพิ่มความสะดวกและปลอดภัย รวมถึงลดต้นทุนและเวลาดำเนินการให้กับผู้ประกอบการและผู้ชำระภาษี โดยไม่ต้องนำเงินสดหรือเช็คไปชำระที่หน่วยงานศุลกากร ในส่วนของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ก็ไม่ต้องมีภาระในการนับเงินและนำเงินไปฝากที่ธนาคาร อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบรายงานการรับชำระเงินที่บริการ Krungthai Corporate Online ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” อธิบดีกรมศุลกากร ระบุ.