“ทีเด็ดฮ่องเต้” ไก่แท่งอบกรอบตำรับจีนชาววัง
จุดขายที่สำคัญทางการตลาดอีกปัจจัยหนึ่งก็คือการสร้างความแตกต่าง แต่การแตกต่างนั้นจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ด้วย กลยุทธ์นี้จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว ไม่ใช่วูบวาบแค่เพียงช่วงแรกที่สร้างแรงดึงดูดต่อผู้บริโภคได้
“ทีเด็ดฮ่องเต้” (T-DED HONGTAE) แบรนด์ที่เลือกจะฉีกหนีการแข่งขันทางการตลาด โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความต่าง ซึ่งเป็นการใช้ข้อได้เปรียบจากสูตรเด็ดเคล็ดลับประจำตระกูลมาต่อยอด เพื่อเจาะตลาดอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ภายใต้การนำทัพของ “ณัฐวัฒน์ ธนาสิริวัจน์” ประธานกรรมการบริหาร และ “เฉลิมพรรณ วรพิทย์พงศ์” กรรมการ และฝ่ายการตลาด บริษัท ธนาสิริวัฒน์ กรุ๊ป จำกัด ที่ Startup ขึ้น
จุดเริ่มต้นธุรกิจ
ณัฐวัฒน์ บอกถึงที่มาที่ไปแห่งไอเดียในการทำธุรกิจกับ ว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากสูตรลับตำหรับชาววังของอาม่า ซึ่งเคยทำงานอยู่ในห้องเครื่องของราชวังจีน โดยเป็นสูตรในการแปรรูปเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งมีเคล็ดลับในการถนอมอาหารแบบสมัยก่อนที่ไม่มีการใส่สารกันบูด โดยเมื่อตอนมาอยู่ประเทศไทยใหม่ๆอาม่าได้ทำหมูแผ่นส่งให้ร้านในเยาวราชทุกร้านเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ
ทั้งนี้ เมื่อต้นทุนหมูขยับตัวขึ้นจากราคา 20-30 บาทในสมัยก่อนมาเป็นกิโลกรัมละกว่า 100 บาท อาม่าจึงขอขยับราคาขาย แต่ด้วยข้อเสียเปรียบที่ไม่มีแบรนด์เป็นของตนเอง จึงไม่สามารถขยับราคาขึ้นได้ โดยได้รับข้อเสนอยอมให้ใส่สาร หรือแป้งได้เพื่อให้จำหน่ายราคาเดิม ด้วยความที่อาม่าเป็นคนที่ไม่ทำในสิ่งไม่ดี ไม่หลอกลวงผู้บริโภคเพราะมองว่ามันบาป และระยะยาวไม่ได้ส่งผลดีต่อผลิตภัณฑ์ของตนเอง ผู้บริโภครับประทานแล้วก็คงจะมาต่อว่า สุดท้ายก็จะเป็นการทำลายอาชีพตนเอง จึงยุติอาชีพดังกล่าวและหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน
อย่างไรก็ดี เมื่อมาถึงรุ่นเหลนซึ่งก็คือตน ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง ก็ได้นึกไปถึงรสชาติหมูแผ่นของอาม่าที่เคยรับประทาน ซึ่งอร่อยมากเพราะเป็นสูตรโบราณที่มีเคล็ดลับบางอย่างในกระบวนการทำ โดยอาจจะเป็นเพียงเคล็ดลับเล็กน้อยแต่ก็มีผลทำให้สร้างความแตกต่างจากเจ้าอื่นได้ ซึ่งตนได้นำกระบวนการดังกล่าวมาปรับประยุกต์นำเครื่องจักรสมัยใหม่ที่ออกแบบและคิดค้นขึ้นเองทั้งเป็นแบบไทยประดิษฐ์ และส่งแบบไปให้ช่างจากต่างประเทศทำ จากแต่ก่อนที่การทำให้แห้งจะต้องผ่านย่างเตาถ่านและผ่านความร้อนเป็นเวลานาน ดังนั้น โรงงานของเราจึงแบบปิด เพราะเป็นเคล็ดลับของการทำให้กรอบโดยไม่มีแป้งผสมแต่อย่างใด
สำหรับธุรกิจหมูแผ่นได้เริ่มต้นอย่างจริงจังประมาณปี 57 และเริ่มมาทำวิจัยและพัฒนาแปรรูปเนื้อไก่ 1 ปีเต็มในปี 58 โดยทำขึ้นและจดทะเบียนเป็นของดีประจำตำบล หรือโอท็อปของจังหวัดราชบุรี แต่ยังไม่ได้วางจำหน่ายออกสู่ตลาดมากนัก จำหน่ายเฉพาะในจังหวัด หลังนั้นจึงร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชนของจังหวัด ซึ่งให้แนวทางในการสร้างแบรนด์ โดยทำห้นึกย้อนไปได้ว่าในสมัยของอาม่าไม่ได้มีแบรนด์ อาศัยช่องทางการขายส่ง ทั้งที่ผลิตภัณฑ์มีศักยภาพในการทำตลาดได้ จึงคิดสร้างแบรนด์ขึ้นมาภายใต้ชื่อ “ทีเด็ดฮ่องเต้” เพราะเป็นอาหารที่ทำให้ฮ่องเต้เสวย และเป็นสูตรลับ ตนจึงวางแนวคิดนำทั้ง 2 ปัจจัยมาผสมกันให้เป็นโลโก้ของแบรนด์ เพื่อสื่อถึงตัวตนของผลิตภัณฑ์
เฉลิมพรรณ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันธุรกิจหลักของแบรนด์คือการทำไก่แท่งอบกรอบ (Crispy Chicken Sticks) โดยเหตุผลที่เกิดแนวคิดในการปรับเปลี่ยนธุรกิจมาสู่การทำเป็นไก่แท่งอบกรอบก็เพราะด้วยความที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะทำจากเนื้อหมู 100% โดยไม่มีการผสมใดๆ แต่ผู้บริโภคย่อมมองว่ามีราคาที่สูง อีกทั้งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะทำผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู เราจึงต้องการสร้างความแตกต่าง รวมถึงมองว่ามีคู่แข่งไม่มาก และมีตลาดของชาวมุสลิมที่ค่อนข้างใหญ่ แบรนด์จึงมองตลาดดังกล่าวนี้เป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มคนมุสลิมไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย ขณะที่ขนมรับประทานเล่นของมุสลิมก็มีค่อนข้างน้อย
นอกจากนี้ แบรนด์ยังมองว่าแนวโน้มของอาหารเพื่อสุขภาพกำลังได้รับความนิยม จากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นิยมรับประทานอาหารที่ไม่ปรุงแต่งมาก หรืออาหารคลีน ซึ่งตรงกับแนวคิดของแบรนด์ที่ต้องการสร้างสรรค์อาหารให้ผู้บริโภครับประทานแล้วสุขภาพดี โดยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะไม่ใช้วิธีการทอด จะใช้วิธีการอบด้วยระยะเวลานานจึงปราศจากน้ำมัน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์เลยก็ว่าได้
รุกตลาดในและต่างประเทศ
เฉลิมพรรณ กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบันแบรนด์รับจ้างผลิต (OEM) ให้กับบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพราะเป็นการจำหน่ายให้กับชาวต่างชาติ หลังจากที่เคยวางจำหน่ายที่คิงเพาเวอร์และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนช่องทางในการทำตลาดของแบรนด์จะเน้นการทำตลาดที่ห้างโมเดิร์นเทรด อาทิ โกลเด้นเพลส ,เลมอนฟาร์ม ,ร้านกูร์เมต์ มาร์เกต ,ซุบเปอร์มาร์เกตในเครือของบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ,ร้านแม็กมาร์ทในปั๊มน้ำมันพีที ห้างริมปิงที่จังหวัดชียงใหม่ และบนสายการบินอย่างนกแอร์ นกสกู๊ต เวียตเจ็ท
ส่วนกลยุทธ์การขยายตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าของแบรนด์ จะมีแนวทางที่ชัดเจนคือการไม่เข้าจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ โดยล่าสุดได้มีการขยายตลาดไปยังร้านแม็กซ์แวลู อีกทั้งยังมีแผนที่จะรุกตลาดตามสถานออกกำลังกายแบบฟิตเนส ซึ่งแบรนด์มีแนวคิดจะทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นแบบพรีเมี่ยมเพื่อผู้รักสุขภาพโดยเฉพาะ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนลักษณะของผลิตภัณฑ์ให้รับประทานง่ายขึ้น และเพิ่มเติมสารอาหารอย่างคอลลาเจนเข้าไป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการมากกว่าอาหารให้พลังงานจากโปรตีน และปรับเปลี่ยนแพคเก็จให้เข้ากับสถานที่จำหน่าย
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังเตรียมขยายตลาดไปสู่กลุ่มเด็กตั้งแต่อายุ 1 ขวบขึ้นไปที่เริ่มมีฟันในการกัดแทะ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ปกครองที่ซื้อไปให้ลูกได้รับประทาน เพราะเป็นเนื้อไก่แท้ที่ไม่มีสารกลูเตน (Gluten) เนื่องจากมีเด็กจำนวนมากที่แพ้สารประเภทดังกล่าว นอกจากนี้ปัจจุบันแบรนด์ยังใช้เงินลงทุนมากกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงานแห่งใหม่บนพื้นที่ 5 ไร่ และเพิ่มจำนวนเครื่องจักรรองรับตลาดส่งออก โดยจะทำการแยกโรงงานมาเพื่อแปรรูปเฉพาะเนื้อไก่รองรับตลาดฮาลาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“หลังจากที่แบรนด์ได้ไปออกงานแสดงที่ประเทศฮ่องกง ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมากที่ติดต่อเข้ามาเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย อาทิ ประเทศสิงคโปร์ ,มาเลเซีย ,ฮ่องกง และจีน ซึ่งขั้นตอนในปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจ เพราะผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ทำจากเนื้อไก่ 100% จึงมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ค่อนข้างมาก และประเทศกัมพูชาซึ่งกำลังจะเข้าไปทำตลาด เพราะประเทศในกลุ่ม CLMV มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก”
เล็งขอมาตรฐาน BRC บุกยุโรป
ณัฐวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ที่โรงานแห่งใหม่ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินไตรมาส 1/62 เพื่อทำตลาดส่งออกอย่างเต็มรูปแบบนั้น บริษัทยังมีแผนที่จะขอมาตรฐาน BRC (The British Retail Consortium) เพื่อทำตลาดในกลุ่มประเทศยุโรป รวมถึงตะวันออกกลาง และประเทศต่างๆทั่วโลก เพราะถือเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดที่ทั่วโลกยอมรับ โดยหากทำสำเร็จจะเป็นเอสเอ็มอีรายแรกในประเทศที่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ในระยะต่อไปบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มเติมแทนเนื้อหมู เพื่อเจาะตลาดฮาลาลและกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจาทางธุรกิจกันบ้างแล้ว
ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น มองว่าอยู่ที่เรื่องของการให้ โดยไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามจะให้ผู้อื่นก่อน เช่น ที่โรงงานจะให้โอกาสกับโกที่มีปัญหา ซึ่งที่อื่นอาจจะไม่ให้การยอมรับเข้าทำงาน โดยสิ่งที่ได้กลับมาก็คือความกตัญญูและประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งการที่เราผลิตภัณฑ์ด้วยความตั้งใจจริงจากเนื้อไก่ 100% ยังช่วยให้เด็กที่แพ้สารอาหารประเภทกลูเต็นที่เกิดจากไก่ แป้ง หรือแม้แต่ซีอิ๊วได้มีอาหารที่มทีประโยชน์รับประทาน ในช่วงที่เราหมดกำลังใจก็มีกลุ่มผู้ประครองเข้ามาให้กำลังใจ และไม่อยาดให้เราเลิกทำจนเราสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างแข็งแรง นอกจากนี้เรายังทำแต่ในสิ่งที่ดีตามแนวทางของอาม่า แม้ว่าการทำดีจะต้องอดทน แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อแบรนด์ในระยะยาว