ผู้นำฮ่องกงชี้ศก.เสี่ยงชะลอตัว
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. แคร์รี แลม ผู้นำสูงสุดฮ่องกงบรรยายภาพเศรษฐกิจฮ่องกงที่มืดมนท่ามกลางการประท้วง แต่แสดงความหวังว่าการพูดคุยกับผู้ชุมนุมอย่างสันติจะช่วยหาทางออกให้ฮ่องกง
โดยแลม ซึ่งเป็นผู้บริหารฮ่องกงที่รัฐบาลจีนแต่งตั้งมา ระบุว่าเธอมีความตั้งใจจะพูดคุยกับผู้ประท้วงอย่างสันติเพื่อลดความแตกต่างในปัจจุบัน
“ เราจะเริ่มงานทันทีในการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการพูดคุย” เธอระบุเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ในระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์เกี่ยวกับการประท้วงที่ยังดำเนินอยู่ “ ดิฉันหวังว่า การพูดคุยจะเป็นพื้นฐานของความเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน และหาทางออกเพื่อฮ่องกงในวันนี้”
โดยเธอกล่าวซ้ำว่า ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นสาเหตุการประท้วงนั้นจบลงแล้ว และไม่มีแผนจะนำเสนอขึ้นมาอีก
เธอยังได้ย้ำว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงจะได้รับผลกระทบจากการประท้วงที่ยาวนานหลายเดือน และระบุว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่าที่เห็นในตอนนี้
“ เศรษฐกิจฮ่องกงกำลังเผชิญกับความเสี่ยงชะลอตัว ” แลมกล่าว “ เราสามารถเห็นได้จากข้อมูลในช่วงครึ่งปีแรก ที่จริงแล้ว ดิฉันคิดว่าข้อมูลในครึ่งปีแรกยังไม่ได้สะท้อนถึงความร้ายแรงของปัญหาอย่างแท้จริง”
ในสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฮ่องกงลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของปี 2562 ลงมาอยู่ระหว่าง 0% – 1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิม 2% – 3%
หลายภาคส่วนรายงานผลกระทบและตลาดหลักทรัพย์ระบุว่าถูกกระทบอย่างหนักเนื่องจากการประท้วงมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสายการบิน รถไฟฟ้า และภาค
อสังหาริมทรัพย์มียอดขายลดลง โดยสนามบินฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากช่วงต้นเดือน จากการที่ผู้ประท้วงเข้ายึดสนามบิน นอกจากนี้ การคมนาคมระบบรางก็ถูกผู้ประท้วงขัดขวางหลายครั้ง
ผู้ว่าการแลมยังระบุว่า การพัฒนานครเซินเจิ้นจะเป็นเรื่องดีสำหรับเมือง โดยเฉพาะในแง่ของนวัตกรรมเทคโนโลยี ขณะที่ย้ำว่า ฮ่องกงยังคงมีความได้เปรียบที่ไม่มีที่ใดเหมือนในการดึงดูดบริษัทนานาชาติ
ความเห็นของเธอมีขึ้นในช่วงเวลาที่สภารัฐกิจของจีนเรียกร้องให้มีการพัฒนาเซินเจิ้น เมืองใหญ่ของจีนที่มีพรมแดนติดกับฮ่องกง ให้เป็นฮับสำคัญสำหรับการผลิตและภาคส่วนเทคโนโลยีของจีน.