จีนตัดงบหนุนรถไฟฟ้า ผู้ผลิตเร่งปรับตัว
จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกวัดจากปริมาณ โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างมากในรูปแบบเงินอุดหนุนให้กับบริษัทผู้ผลิต แต่ตอนนี้เริ่มมีการลดความช่วยเหลือลง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญเตือนสตาร์ทอัพผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายสิบรายให้ระวังความล้มเหลว
โดยเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีนจะถูกตัดลงประมาณครึ่งหนึ่งในสัปดาห์หน้าเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยสัดส่วนของงบประมาณที่ตัดลดอยู่ประมาณ 45% – 60% และหยุดให้งบประมาณอุดหนุนโดยสิ้นเชิงสำหรับรถยนต์ที่วิ่งได้ไม่ถึง 250 ก.ม.ต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้ง
นักวิเคราะห์ระบุว่า จะทำให้เกิดการรวมตัวครั้งใหญ่ในตลาดรถไฟฟ้าของจีน “ ต้องมีการแตกกระจาย ก่อนที่จะมีการรวมกัน จะมีหลายบริษัทที่ทำไม่ไหว บริษัทที่อ่อนแอจะถูกกำจัดออกไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว” Bill Russo ซีอีโอของ Automobility Limited กล่าวให้สัมภาษณ์กับ CNBC
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งเริ่มส่งมอบรถคันแรกของพวกเขาในตอนนี้ มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถอยู่รอดได้ และรู้สึกว่าบริษัทรายเล็กกว่าอาจได้รับผลกระทบ
ฟรีแมน เฉิน ซีอีโอของ WM Motor สะท้อนความรู้สึกเชื่อมั่นนี้ โดยระบุว่า บริษัทคงไปได้ดีเนื่องจากผู้บริโภคมองหาเชนที่มีคุณค่า
“ ผู้บริโภคซึ่งเคยสนใจสินค้าตลาดล่างจะเปลี่ยนมามองสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นอย่าง WM Motors” เฉินกล่าวกับสื่อ CNBC ในการสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้จะเกิดความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน แต่ภาคส่วนนี้โดยรวมยังคงขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้อง ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยสารลดลง 15.2% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่รถพลังงานใหม่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 41.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน จากข้อมูลของ สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีน ในเดือนพ.ค. รถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายประมาณ 6.6% ของยอดขายรถยนต์โดยสารทั้งหมดในจีน
ปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตต่างเร่งคว้าส่วนแบ่งในตลาด และยังคงไม่มีกำไร ตัวอย่างเช่น Nio
ซึ่งเข้าตลาดหุ้นที่นิวยอร์กไปแล้ว มีผลประกอบการขาดทุน 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ Xpeng และ WM Motor ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนทั้งคู่ยังไม่ได้เปิดเผยงบการเงิน
อย่างไรก็ตาม WM Motor ระดมทุนในเดือนมี.ค.ได้ 434.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 13,634 ล้านบาท) จากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่างไป่ตู้ ขณะที่ Nio ซึ่งมี Tencent สนับสนุนสามารถขายหุ้น IPO ได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 3,138 ล้านบาท) ในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มลดลง โดยเฉพาะในตลาดหุ้น โดยราคาหุ้นของ Nio ดิ่งร่วงลงกว่า 60% ขณะที่หุ้นของแบรนด์อเมริกันอย่าง Tesla ก็ลดฮวบลงกว่า 32%.