สงครามการค้าเริ่มทำคนตกงานในจีน
มีความกังวลเพิ่มขึ้นในจีนเกี่ยวสภาวะการว่างงานจากผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากเริ่มมีการปลดพนักงานระดับสูงเพิ่มขึ้นทั้ง Sony Mobile , Cisco Systems และ Oracle ทำให้จีนต้องจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์การจ้างงาน
โดย State Council Employment Work Leading Group เป็นหน่วยงานที่ยกระดับขึ้นจากการประชุมความร่วมมือระหว่างกระทรวงก่อนหน้านี้ และมีภารกิจเพื่อ “ส่งเสริมความเป็นผู้นำและความร่วมมือที่เกี่ยวกับการจ้างงาน” จากแถลงการณ์ของสภาแห่งรัฐที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค.
หน่วยงานนี้นำโดยรองนายกฯหูชุนฮัว โดยจะเน้นถึงความสำคัญของกระบวนการที่ปฏิบัติตามนโยบายในประเทศ องค์กรนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กว่า 20 กระทรวงและหน่วยงาน ของรัฐ ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารกลาง และกิจการทหารผ่านศึก
มีการจัดตั้งหน่วยงานนี้ท่ามกลางสัญญาณความตึงเครียดในตลาดงานที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในจีน โดยบริษัทผู้ผลิตเพื่อส่งออกและบริษัทเทคโนโลยีต่างลดจำนวนงานลงจากผลกระทบของสงครามการค้า
บริษัท Sony Mobile ปิดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนในกรุงปักกิ่งช่วงปลายเดือนมี.ค. ทำให้คนตกงานหลายร้อยคน และในเดือนพ.ค.นี้ บริษัท Oracle ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีก็ปลด พนักงานวิจัยในสำนักงานที่จีนประมาณ 900 คน และระบุว่าจะปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 5 แห่งจนหมดด้วย
บริษัท Cisco Systems ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โครงข่ายสื่อสารของสหรัฐฯ ยังได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะลดจำนวนพนักงานฝ่ายผลิตในจีน โดยไม่ได้ระบุจำนวน เป็นผลกระทบทางภาษีที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯกับสินค้าเทคโนโลยีนำเข้าจากจีน
ข่าวการปลดพนักงานของสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีนกลายเป็นข่าวพาดหัวในช่วง 2 -3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้จีนจ้องจับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จีนจะไม่ยอมให้เกิดภาวะการว่างงานจำนวนมากขึ้น โดยจีนต้องทำให้แน่ใจว่า จะมีงานรองรับบัณฑิตจบใหม่ในปีนี้ประมาณ 8.34 ล้านคน และดูแลแรงงานอพยพอีกหลายร้อยล้านคน
ผลวิจัยอิสระชี้ว่า สถานการณ์ตลาดงานของจีนอาจแย่กว่าสถิติทางการของทางรัฐบาล โดยดัชนีการจ้างงานที่ตีพิมพ์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่ง และบริษัทให้บริการหางานจ้าวปินชี้ว่า อัตราส่วนตำแหน่งงานว่างลดลงจากเดิม 1.91 เมื่อปีก่อนลงมาอยู่ที่ 1.68 ในไตรมาสแรก โดยลดลงต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 6 บ่งชี้ว่ามีตำแหน่งงานจำกัดสำหรับผู้ที่มองหางานทำ
โดยดัชนีสรุปว่า “ ตลาดงานย่ำแย่ลงจากความต้องการพนักงานใหมที่ลดลง” หวังจุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารจงหยวนระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงาน แม้จะมีการคาดการณ์กันว่าผลกระทบจากสงครามการค้าครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่ากับช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2551 – 2552 ก็ตาม
เขากล่าวว่า งานด้านการผลิตสินค้าราคาถูกอาจลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ภาคบริการที่กำลังบูมของจีนมีการเติบโตที่รวดเร็วเพียงพอ