จีนแห่สมัครงานราชการเกือบล้านคน
ถึงแม้จะเงินเดือนน้อยและทำงานหนัก แต่งานราชการพลเรือนในจีนก็ยังคงได้รับความนิยมมาก
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ในเดือนธ.ค. 61 มีผู้สมัครมากถึง 920,000 คน สำหรับตำแหน่งงานราชการที่เปิดรับ 14,500 อัตรา หรือคิดเป็น 1 ต่อ 63 สำหรับแต่ละอัตรา
โดยปี 60 มีผู้สมัครมากกว่า 1.1 ล้านคนที่มาสอบข้อเขียน ทำให้มีผู้สมัครเกือบสองเท่าของตำแหน่งงานที่เปิดรับและการแข่งขันยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้น
ซาราห์ เฉิน พนักงานขายจากหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน เป็นหนึ่งในบรรดาผู้มาเข้าสอบงานราชการในมณฑลเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เธอระบุว่า แม้งานจะได้เงินน้อยและมีสวัสดิการน้อยลง แต่เธอก็ยังอยากได้งานนี้
“ การได้อยู่ในระบบของรัฐบาลหมายถึงความมั่นคง” เธอกล่าว “ ทำงานบริษัทเอกชนไม่ได้ผลประโยชน์หรือเงินเดือนมากเสมอไป และที่สำคัญ คุณอาจจะโดนไล่ออกได้ทุกเมื่อ หรือบริษัทคุณอาจปิดตัวลงก็ได้”
เธอระบุว่า การเป็นพนักงานขายมีความเครียดสูงมาก เธอถูกกดดันมากเพื่อให้ทำได้ตามเป้าในแต่ละเดือน เพื่อนของเธอหลายคนที่ทำงานราชการดูจะมีเวลาให้ครอบครัวมากกว่า
สำหรับอีกหลายคน การได้ทำงานราชการเป็นโอกาสที่จะได้มีส่วนในการทำตามนโยบายของรัฐบาล
หลังจากพยายามมาสองปี มู่อี้ วัย 27 ปีสอบผ่านในปีที่แล้ว และกลายเป็นข้าราชการในกรุงปักกิ่ง เธอจบการศึกษาด้านธรรมาภิบาลสังคมจากมหาวิทยาลัยและชื่นชอบการลงพื้นที่ทำวิจัยกับอาจารย์ผู้สอน
“ ฉันเชื่อว่ามีความแตกต่างระหว่างการเป็นเสมียนในบริษัทเอกชน และมีโอกาสที่จะขับเคลื่อนปฏิบัติตามนโยบาย และทำประโยชน์ให้คนในประเทศ” เธอกล่าว ถึงแม้จะมีการลดสวัสดิการลง แต่คนอย่างเธอก็อยากจะทำงานนี้ต่อไป เธอให้ความเห็นแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมองว่างานราชการน่าดึงดูดใจ หลายคนตัดสินใจลาออกไปทำงานในภาคเอกชนและได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่า
ข้าราชการรายหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า มีเพื่อนที่ลาออกและไปทำงานภาคเอกชนในช่วงไม่กี่ปีนี้มากขึ้น โดยหนึ่งในจำนวนนั้นคือ อดีตรองผอ.คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขต ที่ลาออกไปทำงานกับกองทุนรวม เนื่องจากเขาหมดความสนใจในงานของเขาและอยากจะเปลี่ยนแปลง
“ บริษัทเอกชนให้คุณค่ากับความรู้ความชำนาญในอาชีพ ประสบการณ์การทำงานในภาครัฐและคอนเนคชั่นที่สร้างไว้” เขากล่าว
แม้งานในภาคเอกชนจะให้ค่าตอบแทนสูงกว่า แต่ชายคนนี้ระบุว่าเขาไม่เคยคิดจะลาออกจากงานราชการ เพราะเขาขาดทักษะและความรู้ในอาชีพที่จะไปดิ้นรนแข่งขันข้างนอก
