จีนชี้ญี่ปุ่นควรร่วมมือมากกว่าแข่งขัน
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.จีนกระตุ้นญี่ปุ่นให้ประสานความร่วมมือกับจีนมากกว่าที่จะแข่งขันกัน โดยเตือนว่ายังมีความอ่อนแอในความสัมพันธ์ของสองประเทศ
จีนและญี่ปุ่นทะเลาะกันบ่อยครั้งจากประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดระหว่างสองประเทศ โดยจีนกล่าวหาญี่ปุ่นว่าไม่มีการชดใช้อย่างเหมาะสมจากการที่กองทัพญี่ปุ่นรุกรานจีนทั้งก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลก ถูกบั่นทอนจากข้อพิพาทด้านดินแดนที่เป็นเกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลจีนตะวันออก และความข้องใจของจีนในความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งความสงบ
แต่ทั้งสองประเทศพยายามจะพัฒนาปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดีขึ้นในช่วงนี้ โดยนายกฯอาเบะไปเยือนจีนในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เมื่อทั้งสองประเทศให้คำมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น และลงนามในข้อตกลงที่ครอบคลุมกว้างขึ้น รวมทั้งข้อตกลงสัญญาแลกเปลี่ยนสกุลเงินมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หวังอี้ มนตรีแห่งรัฐ และรมว.กระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวกับทาโร โคโน รมว.กระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่งว่า การพัฒนาปรับปรุงความสัมพันธ์อยู่ในช่วงเริ่มต้น
“ มีโอกาสสำคัญมากมาย และยังมีความอ่อนไหวและความอ่อนแอด้วย ” กระทรวงต่างประเทศของจีนระบุโดยอ้างถึงคำพูดของรมว.หวัง
“ ฝ่ายญี่ปุ่นกล่าวหลายครั้งว่า จีนและญี่ปุ่นควรเปลี่ยนการแข่งขันเป็นความร่วมมือ และ (เรา) หวังว่าญี่ปุ่นจะมีความก้าวหน้ามากขึ้นในประเด็นนี้”
ทั้งสองประเทศควรจัดการอย่างมีประสิทธิผลและควบคุมความแตกต่างระหว่างกันผ่านการพูดคุย และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ที่มั่นคงในระยะยาว หวังเสริม
ทาเคชิ โอซูกะ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่งว่า การพูดคุย ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนด้วย ครอบคลุมในหลายประเด็น ทั้งทะเลจีนตะวันออกและเกาหลีเหนือ
ขณะที่ญี่ปุ่นกระตือรือร้นกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ญี่ปุ่นเองก็ต้องจัดการประนีประนอมเพื่อไม่ให้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรความมั่นคงสำคัญไม่พอใจ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมีแนวโน้มจะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นในปีนี้ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดการประชุมซัมมิตของกลุ่มประเทศ G20.