City Brain ของอาลีบาบาช่วยจราจรในบ้านเกิด
การจราจรเคยเป็นปัญหากวนใจอย่างมากกับผู้อยู่อาศัยในเมืองหังโจว เมืองทางตะวันออกของจีนซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา
มหานครที่มีประชากรมากถึง 7 ล้านคน ครั้งหนึ่งเคยติดอันดับ 5 ของเมืองที่มีการจราจรคับคั่งที่สุดในประเทศจีน แต่ปัจจุบันลดลงมาอยู่ในอันดับที่ 57
โดยอาลีบาบาระบุว่า เป็นเพราะหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ของบริษัทที่มีชื่อว่า City Brain ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการรวบรวมข้อมูลทั่วเมืองหังโจว เช่น ภาพวีดีโอจากกล้อง CCTV ที่ติดอยู่ตามสี่แยก และข้อมูล GPS บนพิกัดของรถยนต์และรถโดยสาร
แพลตฟอร์มนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อทำงานประสานกับสัญญาณไฟจราจรกว่า 1,000 จุดทั่วเมือง โดยตั้งเป้าเพื่อไม่ให้การจราจรติดขัดนาน
หลังจากมีการทดสอบการใช้งานนาน 2 ปี ระบบก็พร้อมทำงาน อาลีบาบาระบุว่า City Brain ช่วยย่นเวลาในการเดินทาง และช่วยให้รถดับเพลิงและรถพยาบาลฉุกเฉินมีเวลาที่จะเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้ทันท่วงที
ผู้ขับขี่หลายคนยืนยันว่าหลายสิ่งมีการปรับปรุงขึ้นมาก เย่โปจี ซึ่งขับรถให้บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการรถร่วมโดยสารอย่างตีตี ชูสิง ระบุว่าเขาเคยใช้เวลาถึง 40 นาทีกว่าจะขับผ่านระยะทางเพียง 3 ก.ม. แต่ตอนนี้ “ ดีขึ้นมาก”
“ หลายเมืองในจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายมากกว่าเมืองอื่นในโลก” หวังเจียน ประธานคณะกรรมการเทคโนโลยีจราจรของอาลีบาบากล่าว
แต่ด้วยเทคโนโลยีที่คิดค้นใหม่ ชุมชนสามารถใช้เครื่องมือเพื่อแก้ปัญหา อย่างเช่น การขาดแคลนน้ำ เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNN
“ ที่สุดแล้ว ทุกอย่างจะขึ้นกับพลังการทำงานของคอมพิวเตอร์ เหมือนที่เราพึ่งพาไฟฟ้ามาตลอด” หวังกล่าว
มีการใช้งานแพลตฟอร์มของอาลีบาบาในเมืองอื่นของจีน และถูกนำเสนอที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว
“ เมืองอัจฉริยะส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา” MaKinsey Global Institute ระบุในรายงานเมื่อปี 2561 “ เพราะเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ มาตรฐานการพัฒนาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ”
โดยทางสถาบันทำนายว่า ภายในปี 2568 หลายเมืองที่ใช้ระบบเช่นนี้จะลดเวลาในการเดินทางลงได้เฉลี่ย 15 – 20%
แต่เทคโนโลยียังก่อให้เกิดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในจีน เพราะมีการติดตั้งกล้องที่มีระบบจดจำใบหน้ากระจายทั่วในหลายพื้นที่ รวมถึงห้องน้ำสาธารณะด้วย
อ้างอิงจากผลสำรวจล่าสุดของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tencent และสถานีโทรทัศน์ CCTV เกือบ 80% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า พวกเขารู้สึกกังวลถึงผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ที่อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา
“ เราต้องแก้ปัญหาในประเด็นความเป็นส่วนตัว แน่นอนที่สุด” หวังกล่าว แต่เขาโต้ว่า ประโยชน์ของโครงการอย่าง City Brain จะมีมากกว่าความกังวล เพราะช่วยให้หลายเมืองขับเคลื่อนไป “ โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ”.