แอปเปิลร้องให้ถอนเรื่องฝังชิปสอดแนมของจีน
ทิม คุก ซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่แอปเปิลเรียกร้องให้มีการถอนเรื่องที่ระบุว่าจีนฝังไมโครชิปสอดแนมในเซิร์ฟเวอร์ของแอปเปิลและบริษัทเทคโนโลยีอื่น
ก่อนหน้านี้ Businessweek ของบลูมเบิร์กตีพิมพ์เรื่องราวที่ระบุว่า มีการฝังไมโครชิปสอดแนมความลับในเซิร์ฟเวอร์ที่ผลิตในจีน แต่ทิม คุกชี้แจงกับ Buzzfeed อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนว่า “ พวกเขาจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและถอนเรื่องนี้ออกไป ”
ขณะที่ Businessweek ระบุว่าจะยืนหยัดกับรายงานของตัวเองต่อไป
“ การสืบสวนของบลูมเบิร์ก Businessweek เป็นผลจากการทำงานของเรานานกว่า 1 ปี โดยในระหว่างนั้น เราได้ทำการสัมภาษณ์แหล่งข่าวมากกว่า 100 ครั้ง ” ทางสื่อระบุในแถลงการณ์
“ 17 แหล่งข่าวบุคคล ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและแหล่งข่าววงในของหลายบริษัท ยืนยันว่ามีการโจมตีด้วยการควบคุมฮาร์ดแวร์และปัจจัยอื่น ”
“ เราได้ตีพิมพ์แถลงการณ์เต็มของ 3 บริษัท รวมถึงแถลงการณ์ของกระทรวงกิจการต่างประเทศของจีนด้วย ”
“ เรายืนหยัดกับเรื่องราวของเรา และเชื่อมั่นในการรายงานและแหล่งข่าวของเรา ”
รายงานของ Businessweek ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ระบุว่า จีนได้ฝังไมโครชิปขนาดจิ๋วไว้ในเมนบอร์ดของเซิร์ฟเวอร์ที่ผลิตในจีน และส่งให้กับลูกค้าทั่วโลกที่มีคำสั่งซื้อเข้ามา ก่อให้เกิดความตื่นตกใจไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่บริษัทส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากรายงานรีบออกมาตอบโต้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มีการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดระหว่างแมกกาซีนที่มีชื่อเสียงในด้านการเช็คข้อมูลอย่างรวดเร็ว และบริษัทที่ยืนยันปฏิเสธอย่างหนักแน่นในทุกเงื่อนไข
ในกรณีของแอปเปิล เป็นครั้งแรกของบริษัทที่มีการเรียกร้องในพื้นที่สาธารณะให้ถอนเรื่องนี้ออกไป
“ เราแทบจะพลิกบริษัทหาเลย ” ซีอีโอแอปเปิลกล่าวกับ Buzzfeed
“ ทั้งอีเมลเสิร์ช บันทึกศูนย์ข้อมูล บันทึกการเงิน บันทึกการส่งของ เราได้ทำการตรวจค้นพิสูจน์อย่างละเอียดทั่วบริษัท ขุดลงไปลึกมากๆ และในแต่ละครั้ง เราก็ได้ผลสรุปเหมือนเดิม เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่มีความจริงในเรื่องนี้เลย ”
การปฏิเสธของแอปเปิลเป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรม เช่น อเมซอน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐในสหรัฐฯ และทั่วโลก
“ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิตระหนักถึงรายงานของสื่อถึงอันตรายของซัพพลายเชนเทคโนโลยี ” โฆษกของกระทรวงรายงานถึงแถลงการณ์ของกระทรวง
“ เหมือนกับหุ้นส่วนของเราในสหราชอาณาจักร คือศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติ ในเวลานี้ เราไม่มีเหตุผลที่จะข้องใจกับแถลงการณ์จากบริษัทที่ถูกระบุชื่อในเรื่องนี้ ”