จีนโจมตีสหรัฐฯ แต่ยังให้โอกาสเจรจา
สื่อภาครัฐของจีนตอบโต้สหรัฐฯ อย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าจะขึ้นภาษีมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าส่งออกของจีน แต่ยังคงมีพื้นที่เผื่อให้มีการเจรจาได้อีก
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.จีนระบุว่าจะปรับขึ้นภาษี 25% กับสินค้าสหรัฐฯ 659 รายการมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯใช้กำแพงภาษีกับสินค้าของจีนก่อน
“ คนฉลาดสร้างสะพาน คนโง่สร้างกำแพง ” บทบรรณาธิการของสำนักข่าวซินหัวระบุ สะท้อนถึงความเห็นจากภาครัฐของจีนที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศในสงครามการค้า
“ จีนขานรับอย่างดีที่สุดกับกรณีพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนด้วยการแผ่ขยายและเปิดกว้าง และถือเป็นความรับผิดชอบที่ประเทศมหาอำนาจควรให้กับโลก ” บทบรรณาธิการระบุ
ขณะที่บทบรรณาธิการของพีเพิลเดลี่ หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ประณามการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ “ ซึ่งหลงใหลกับบทบาทที่น่าอาย เป็นคนทำลายเศรษฐกิจทั่วโลก ”
บทบก.ยังเสริมว่า “ ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า และการยั่วยุของสหรัฐฯให้เกิดสงครามการค้าเป็นการทำลายการค้าทั่วโลกขั้นสุด โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ระบบการค้าพหุภาคี และซัพพลายเชนทั่วโลก ”
“ โลกทั้งใบจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับความผิดพลาดของสหรัฐฯแต่เพียงฝ่ายเดียว ”
โกลบอลไทม์ ซึ่งเป็นสื่อของพีเพิลเดลี่ เรียกความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯว่า “ การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบในนามของทำเนียบขาวเพื่อทำลายการค้าระหว่างประเทศ เพื่อทำให้ชาวอเมริกันผู้สนับสนุนประธานาธิบดีเชื่อว่า เขาต่อสู้เพื่อพวกเขา ”
ในบทบรรณาธิการ.ระบุว่า มาตรการภาษีเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของการพูดคุยระหว่างจีนและสหรัฐฯ และจีนพร้อมตอบโต้หากทางวอชิงตันไม่ถอยหลังออกจากการกระทำที่ก่อให้เกิดอันตรายนี้
ขณะที่มองว่าการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯขัดแย้งและไม่มั่นคง สื่อโกลบอลไทม์ยังแสดงความหวังว่า สงครามการค้าจะถูกบั่นทอนให้ลดลง
“ จากการให้ความเห็นที่กลับไปกลับมาของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่าสงครามการค้าเริ่มขึ้นแล้ว ” และเสริมว่า จุดยืนของจีนยังคงเหมือนเดิม
“ จีนเปิดรับการพูดคุย และไม่กลัวความเสี่ยงของสงครามการค้า ”
ปฏิกิริยาตอบรับที่มีต่อกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ยังคงเงียบเชียบในโซเชียลมีเดียของจีน โดยประเด็นนี้ไม่ติดอันดับ 100 เทรนด์แรกทวิตเตอร์ของจีนอย่างเว่ยป๋อ
จีนจะปรับขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ครั้งแรกกับสินค้า 545 รายการ มูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มมีผลในวันที่ 6 ก.ค.กระทบกับสินค้าอย่างเนื้อวัว เนื้อหมู สัตว์ปีก ปลาและอาหารทะเล ผลิตภัณฑ์นม ผัก เห็ด ผลไม้ ถั่ว ข้าวฟ่าง ธัญพืช ถั่วเหลือง วิสกี้ น้ำส้ม ยาสูบ และรถยนต์ไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า
แต่จีนยังไม่ได้ประกาศว่ามาตรการภาษีระลอก 2 จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด โดยสินค้าที่จะปรับขึ้นภาษีอีก 114 รายการมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะรวมถึงน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขณะที่เครื่องบินซึ่งอยู่ในรายการสินค้าที่จะมีการขึ่้นภาษีตั้งแต่เดือนเม.ย.ไม่อยู่ในรายการสินค้าที่มีการปรับแก้ไข.