เสี่ยวมี่/ไมโครซอฟต์ร่วมมือด้าน AI
บริษัทเสี่ยวมี่ลงนามในข้อตกลงกับบริษัทไมโครซอฟต์เมื่อวันที่ 23 ก.พ.เพื่อประสานความร่วมมือกันในด้านปัญญาประดิษฐ์ คอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ และแล็ปท็อป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนที่จะแข่งขันในระดับโลกในปีนี้
ภายใต้บันทึกความเข้าใจที่ทำร่วมกัน ไมโครซอฟต์จะใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่มีใน AI และบริการระบบคลาวด์เพื่อประสานพลังกับความแข็งแกร่งด้านสมาร์ทโฟนของเสี่ยวมี่ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าและช่วยหนุนเสี่ยวมี่ให้เติบโตในตลาดโลก
โดยทั้งสองบริษัทค้นพบวิธีการใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟต์คือ Azure เพื่อช่วยการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเสี่ยวมี่ในต่างประเทศ ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันมากขึ้นในด้านการตลาดและช่องทางค้าปลีก รวมทั้งการทำวิจัยและพัฒนาเพื่อช่วยแล็ปท็อปของเสี่ยวมี่ให้บุกตลาดในหลายประเทศ
Harry Shum รองประธานบริหารของกลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ของไมโครซอฟต์ กล่าวว่า เสี่ยวมี่เป็นหนึ่งในบริษัทของจีนที่มีนวัตกรรมมากที่สุด
“ความแข็งแกร่งของไมโครซอฟต์ในด้านการวิจัย AI ประสบการณ์ที่มีมาก รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถแข่งขันได้จะช่วยเสี่ยวมี่ในการนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าไปสู่ผู้ใช้งานทุกคนในตลาดโลก” เขาระบุในแถลงการณ์
ทั้งสองฝ่ายยังได้พูดคุยกันเรื่องการบูรณาการระบบผู้ช่วยด้วยเสียง Cortana ของไมโครซอฟต์เข้าไปในระบบลำโพงของเสี่ยวมี่ ซึ่งอาจช่วยให้ขายในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น
เสี่ยวมี่กำลังต่อสู้กับบริษัทในประเทศเดียวกันอย่างหัวเหว่ยและบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯอย่างแอปเปิลเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกได้มากขึ้น โดยในไตรมาส 4 ของปี 2560 เสี่ยวมี่สามารถเบียดแซงบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้อย่างซัมซุงขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนของอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก อ้างอิงจากรายงานของบริษัทวิจัยตลาด Canalys
ข้อตกลงเมื่อวันที่ 23 ก.พ.มีขึ้นหลังจากเสี่ยวมี่ซื้อสิทธิบัตรเกือบ 1,500 เทคโนโลยีจากไมโครซอฟต์ในปี 2559 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพการถ่ายโอนทรัพย์สินทางปัญญาอย่างถูกกฎหมายเข้ามาในจีนได้อย่างราบรื่น
เซียงลี่กัง ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมและซีอีโอของเว็บไซต์อุตสาหกรรมโทรคมนาคม อย่าง ectime.com ให้ความเห็นว่า “ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างเสี่ยวมี่และไมโครซอฟต์จะเป็นการอำนวยความสะดวกและเอื้อประโยชน์ให้เสี่ยวมี่เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ แต่เสี่ยวมี่ยังคงต้องมีการทุ่มเทบุคลากรมากขึ้นในด้านการวิจัยและพัฒนาในบริษัทเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในระยะยาวและมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”.