‘ฮิตาชิฯ’หันบุกขยายตลาดลิฟท์ในกลุ่มCLMV
“ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์” ระบุภาพรวมตลาดอสังหาฯในไทย ชะลอตัวลง โดยเฉพาะก่อสร้างตึกสูงลดลง กระทบต่อความต้องการใช้ลิฟท์ ปรับแผนหันเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในกลุ่ม CLMV ชี้ดีมานด์ในเขมรเติบโตสูง จีพีดี 5 ปีไม่ต่ำกว่า 6-7%
นายศักดิ์ชาย วรสง่าศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (กัมพูชา) จำกัด ผู้จำหน่ายและบริการลิฟท์และบันไดเลื่อนในกรุงพนมเปญ กล่าวถึงภาพรวมตลาดลิฟท์ในประเทศไทยว่า ค่อนข้างชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ชะลอลงทุนโครงการตึกสูง ส่งผลความต้องการใช้ลิฟท์ในตลาดลดลง สำหรับการขยายตลาดในกลุ่ม CLMV ว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หลังจากเข้าไปบุกเบิกและตลาดในประเทศเวียดนามแล้ว ทางฮิตาชิฯ ได้เพิ่มฐานลูกค้าไปสู่ตลาดในประเทศกัมพูชา ,เมียนมาร์และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งประเทศเวียดนาม เป็นหนึ่งในสี่ประเทศที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งสามารถนำเข้าลิฟท์จากโรงงานในประเทศจีน ส่วนกัมพูชาเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวที่มาก แม้ว่าจะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ต้องจัดให้กัมพูชา เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงในระดับ 6-7% ติดต่อมา 5 ปีแล้ว และการขยายตัวของจีดีพีในกัมพูชา มีปัจจัยหลักมาจากการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความต้องการใช้ลิฟท์ภายในอาคารสูงขยายตัวตามการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์
โดยในปัจจุบัน ตลาดรวมลิฟท์ในกัมพูชามีความต้องการใช้ประมาณ1,500 ตัวต่อปี แบ่งเป็นตลาดระดับล่างหรือลิฟท์นำเข้าจากประเทศจีนเกือบ 60% เนื่องจากลิฟท์ในตลาดล่างจากจีนมีราคาขายที่ต่ำกว่าลิฟท์อินเตอร์แบรนด์กว่า 50% ส่วนลิฟท์ระดับบน หรือแบรนด์อินเตอร์ที่มีมาตรฐานมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 40% ทั้งนี้ ในส่วนของฮิตาชิฯ มีส่วนแบ่งในตลาดระดับบน 10% ซึ่งเป็นการขายพร้อมติดตั้งระบบ พร้อมการซ่อมบำรุงหรือบริการหลังการขาย 24 ชั่งโมง ซึ่งขายเป็นแพกเกจ โดยมีค่าบริการหลังการขาย 1,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 35,000 บาทต่อปี
“การแข่งขันในตลาดกัมพูชาค่อนข้างรุนแรง เพราะการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างต่างๆ โดยมากจะเป็นการลงทุนจากประเทศจีน ซึ่งนักธุรกิจจีนที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชาส่วนใหญ่จะเลือกใช้ลิฟท์แบรนด์ในประเทศจีนเองทั้งหมด ขณะที่ลิฟท์อินเตอร์แบรนด์จะทำตลาดเจาะกลุ่มตลาดบน ส่วนใหญ่เป็นบริษัทร่วมทุนต่างชาติและกัมพูชา โดยฮิตาชิฯ จะเน้นจับกลุ่มนักธุรกิจกัมพูชาที่พัฒนาโครงการไฮเอนด์ แต่ขนาดโครงการไม่ใหญ่”
นายศักดิ์ชาย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ฮิตาชิฯ มียอดขายในกัมพูชา 100 ตัว ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 150 ตัว พร้อมวางเป้าภายใน 2 ปีข้างหน้า บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตด้านยอดขายในกัมพูชา 20-25% ซึ่งสอดรับกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ.