HOORAY BETTER SHAKE นมโปรตีนสูงระดับพรีเมี่ยม
ปัจจุบันกลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาด และยุทธวิธีในการเอาชนะคู่แข่งได้เปลี่ยนแปลงไป การห้ำหั่นกันด้วยราคาไม่ใช่แนวทางที่จะช่วยทำให้ธุรกิจ หรือกิจการมีความยั่งยืน แต่สิ่งที่สำคัญของการตลาดยุคดิจิตอลคือเรื่องนวัตกรรม
ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้ บริษัท ครอสแม็กซ์ รีเทล จำกัด ภายใต้การนำของ ชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ ผู้จัดการสายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็น 1 ในผู้ร่วมก่อตั้ง คือผู้ที่มองเห็นช่องทาง และโอกาสดังกล่าวจนนำมาสู่การ Startup ธุรกิจนมสดพลาสเจอร์ไรซ์โปรตีนสูงภายใต้แบรนด์ “ Hooray Better Shake ”
จากประสบการณ์สู่ธุรกิจ
ชัชณี บอกถึงที่มาที่ไปของธุรกิจว่า เริ่มต้นมาจากการที่เคยทำงานในสถานออกกำลังกายประเภทฟิตเนส ทำให้ได้พบเห็นพฤติกรรมการบริโภคโปรตีนของสมาชิกที่เข้ามาออกกำลังกาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการบริโภคโปรตีนผงแบบต้องชงดื่ม อีกทั้งโปรตีนผงยังมีขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่ค่อนข้างใหญ่ ไม่สะดวกในการพกพาไปไหนมาไหน รวมถึงวิธีการจะรับประทานก็ค่อนข้างยุ่งยาก และที่สำคัญผู้หญิง และผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายจะรับประทานได้ยาก เพราะไม่เคยรับประทานมาก่อน
เมื่อได้พบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้มองเห็นโอกาส หรือช่องทางในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ผู้ออกกำลังกายมีความต้องการในปริมาณที่สูง แต่จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่รับประทานง่าย พกพาสะดวก รสชาติอร่อย ผลิตภัณฑ์ Hooray Better Shake โปรตีนพร้อมดื่มจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ออกกำลังกายทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายด้วย
“ ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพมาแรงมากในประเทศไทย เราจึงจับกระแสดังกล่าวมาเป็นแนวความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นความถูกสุขลักษณะ และให้โปรตีนสูงตามที่ผู้บริโภคต้องการ ซึ่งกว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ต้องผ่านการวิจัยทั้งใน และต่างประเทศเกือบ 2 ปี ”
นมคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม
สำหรับจุดเด่นของ Hooray Better Shake นั้น ชัชณี บอกว่า อยู่ที่สารอาหารประเภทโปรตีนที่มีมากกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปในตลาดถึง 3-5 เท่า โดยเป็นนวัตกรรมในกระบวนการผลิตด้วยการนำน้ำ ซึ่งเป็นส่วนผสมของนมวัวสดส่วนหนึ่งออกมา เพื่อนำโปรตีนเข้มข้นเข้าไปแทนที่ โดยวัตถุดิบที่ผลิตจะมีทั้งที่มาจากในประเทศ และต่างประเทศ ขณะที่สารให้ความหวานจะใช้“หญ้าหวาน” ซึ่งเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติแทนน้ำตาล เพื่อให้มีความเหมาะสมกับผู้ที่รักสุขภาพ โดยปัจจุบัน Hooray Better Shake มีอยู่ด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ 1.Dark Chocolate, 2.Coffee Latte และ 3.French Vanilla
“ กระบวนการสกัดโปรตีนจากน้ำนมวัว เราได้ศึกษาจากประเทศอังกฤษ, สหรัฐฯ และออสเตรเลีย แล้วประยุกต์เป็นเทคโนโลยีของตัวเอง โดยมุ่งเน้นให้เป็นนมสดที่ต้องรสชาติดี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่สูญเสียคุณประโยชน์ทางสารอาหาร ”
ส่วนกลุ่มลูกค้าของ Hooray Better Shake แน่นอนว่าจะเป็นผู้ที่รักสุขภาพทั้งผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย และไม่ได้ออกกำลังกาย โดยอาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบน เนื่องจากราคาของผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าสูงจนเกินที่จะสามารถจับต้องได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ Hooray Better Shake มีวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป เช่น ท็อปส์ ซุบเปอร์มาเก็ต (Tops super market), ฟู๊ดแลนด์ (Foodland), ลา วิลล่า (La Villa) และกูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) เป็นต้น
ขณะที่กลยุทธ์ในการทำตลาดหลักนั้น เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก เงินทุนมีไม่มากนัก การประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มลูกค้า จึงเลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้บริโภคยุคปัจจุบัน และยังมีต้นทุนที่ต่ำ แต่มีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างสูง
“ ด้วยความที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ทำให้ไม่มีงบในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เราเลือกที่จะนำเงินไปลงทุนกับวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม เพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้กับผู้บริโภค โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญคือให้แคลเซียมถึง 90% ของที่ร่างกายต้องการต่อ 1 วัน และสูงกว่านมทั่วไป 2 เท่า อีกทั้งยังมีไขมันที่ต่ำกว่านมทั่วไป 5 เท่า”
เล็งโต 100% พร้อมขยายตลาดออกต่างประเทศ
ชัชณี บอกว่า Hooray Better Shake เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 และมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 50,000-60,000 ขวดต่อเดือน หรือในปี 2559 ที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนปี 2560 ตั้งเป้าที่จะมีรายได้อยู่ที่ 60 ล้านบาท หรือโต 100% จากปีที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์การขยายช่องทางการจำหน่าย โดยล่าสุดเตรียมนำผลิตภัณฑ์เข้าวางจำหน่ายในแฟมิลี่มาร์ท (Family mart) บางสาขาในทำเลที่มีศักยภาพ
พร้อมกันนี้ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นนมโปรตีนที่ทำจากพืช เพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ไม่รับประทานนมวัว โดยที่บริษัทได้ทำการค้นคว้า และวิจัยสูตรเพื่อให้มีความเหมาะสมกับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายการทำตลาดออกสู่ต่างประเทศ โดยเริ่มต้นจากการออกงาน THAIFEX ในเดือนพฤษภาคม เพื่อเป็นการเปิดตลาดให้ผู้บริโภคต่างประเทศได้รับรู้ หลังจากนั้นเบื้องต้นก็จะเริ่มทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงขยายไปสู่ระดับเอเชีย และตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ดี การทำตลาดในต่างประเทศนั้น คงเป็นการร่วมมือกับหอการค้าแห่งประเทศไทยในการออกงานแสดงสินค้า เพื่อเข้าถึงตัวผู้บริโภคของแต่ละประเทศ โดยจะใช้วิธีการหาตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพในการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปทำตลาด ซึ่งปัจจุบันอู่ระหว่างการศึกษา และพิจารณาในรายละเอียดของตัวแทนจำหน่ายแต่ละราย โดยวางเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้ไปสู่ระดับสากล
“ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank) มีส่วนช่วยในการสนับสนุนเรื่องของเงินทุนผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเอสเอ็มอี (Policy loan) เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทต้องมีการวิจัยค่อนข้างมาก ทำให้ต้องมีการใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง การได้สินเชื่อเข้ามาทำให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจต่อไปได้ ”