แบรนด์ไทยถูกจีนก๊อบปี๊ตีตลาดเออีซี
พาณิชย์ โวยสินค้าไทยถูกนักธุรกิจจีนก๊อบปี๊วางขายในเวียดนามและเมียนมาทั้งสินค้าแฟชั่น อาหารและอาหารสำเร็จรูป เพราะคนเวียดนามนิยมสินค้าไทยมากกว่าสินค้าจีน รมช.พาณิชย์ (สุวิทย์ เมษินทรีย์) ถกเครียดวอนรัฐบาลเวียดนามดูแลสินค้าไทย ขณะที่คนเวียดนามหวั่นนักลงทุนไทยฮุบกิจการค้าปลีกเวียดนาม
“สินค้าไทยกลายเป็นสินค้าที่ขายดีในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านต้องผลิตสินค้าปลอมหรือก๊อบปี๊สินค้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามและเมียนมา” นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และกล่าวว่า
ขณะนี้ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการไทยว่า มีสินค้าไทยจำนวนมากถูกประเทศเพื่อนบ้านปลอมเครื่องหมายโดยเฉพาะเวียดนามและเมียนมา เนื่องจากสินค้าไทยเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอาเซียนเพราะมีคุณภาพสูงแต่ราคาไม่แพงซึ่งในเบื้องต้น กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ในประเทศอาเซียนเข้าไปช่วยเหลือแล้ว พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศที่จะส่งสินค้าไปขายด้วย
นอกจากนี้ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ ได้ประสานกับรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามให้ช่วยเหลือด้วย ทั้งในเรื่องของการป้องกันและการปราบปรามสินค้าที่ผิดกฎหมาย เพราะนอกจากผู้ประกอบการไทยจะเสียประโยชน์แล้วผู้บริโภคในประเทศนั้นจะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพด้วยเนื่องจากสินค้าอาจไม่ได้มาตรฐาน
“สินค้าที่มีการก็อปปี้มากที่สุด ถ้าเป็นในตลาดเวียดนามจะเป็นสินค้าแฟชั่น อาหาร อาหารสำเร็จรูป รองลงมาเป็นจะเป็นตลาดเมียนมาส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนในลาว, กัมพูชา และมาเลเซีย จะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคเช่นกันแต่สถานการณ์การละเมิดยังไม่รุนแรงมากนัก” นายอดุลย์ กล่าว
ทั้งนี้ คนเวียดนามชื่นชอบสินค้าไทย จึงได้รับความนิยมอย่างมากทำให้เกิดการลอกเลียนแบบสินค้าและก๊อบปี๊แบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าจากจีนที่ทำปลอมแล้วเอาเข้ามาจำหน่ายในตลาดเวียดนาม ขณะที่พ่อค้าในท้องถิ่นก็มีการปลอมเช่นกัน ซึ่ง รมช.พาณิชย์ ได้หารือกับ รมช.อุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26-28 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ ได้เดินทางไปเยือนประเทศ โดยได้พบปะกับนักธุรกิจไทยที่ลงทุนในเวียดนามและผู้นำเข้าสินค้าไทยในเวียดนามพร้อมทั้งหารือโอกาสและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม ขณะเดียวกันได้หารือกับกระทรวงการลงทุนและวางแผนเวียดนาม ซึ่งฝ่ายไทยกำลังพิจารณาจะส่งผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาประจำที่เวียดนามด้วยเพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันของสองประเทศ จากปัจจุบันที่ไทยมีสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 2 แห่งในเวียดนาม
นายอดุลย์ กล่าวว่า“ปัจจุบันธุรกิจและสินค้าไทยไปจำหน่ายในตลาดเวียดนามจำนวนมากจนทำให้กลุ่มพ่อค้าสูญเสียประโยชน์กังวลว่าในอนาคตจะถูกสินค้าไทยตีสินค้าในตลาดเวียดนาม เพราะในปัจจุบันมีเครือธุรกิจของห้างเซ็นทรัล, ห้างเมโทร เอจี ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ ธุรกิจค้าปลีกสัญชาติเยอรมัน ซึ่งมีสาขาในเวียดนามจำนวนมากถูกบริษัทในเครือของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เทคโอเวอร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามภาครัฐของเวียดนามก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องของกลไกตลาดและที่สำคัญมองว่าสินค้าไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนเวียดนามด้วย”.