ประท้วงฮ่องกงสุดสัปดาห์รุนแรงอีก
ผู้ประท้วงในฮ่องกงเหยียบย่ำธงชาติจีน ทำลายทรัพย์สินในสถานีรถไฟใต้ดิน และจุดไฟบนถนนเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ทำให้การประท้วงเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยกลายเป็นความรุนแรงอีกครั้ง
โดยในวันนั้น เหตุการณ์เริ่มต้นอย่างสงบ ผู้ประท้วงบุกเข้ามาเต็มห้างสรรพสินค้า
บางคนทิ้งธงชาติจีนบนพื้นและวิ่งย่ำไปย่ำมา ก่อนจะฉีกทำลายและนำไปทิ้งขยะข้างนอก ขณะที่อีกกลุ่มโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินซึ่งเชื่อมต่อกับห้าง พวกเขาทุบทำลายกล้องใช้ค้อนทุบเซ็นเซอร์ตรวจตั๋ว พ่นสีสเปรย์และพังหน้าจอเครื่องขายตั๋ว โดยใช้ร่มเป็นโล่ปิดบังตัวตน
ตำรวจปราบจลาจลมาถึงหลังการโจมตีและรักษาความปลอดภัยให้สถานีหลังจากปิดแล้ว โดยมีการปิดกั้นทางเข้าออก นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังปิดกั้นตลอดถนนใกล้ห้าง และมีการจุดไฟด้วย
ทั้งนี้ การประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงตอนนี้ลากยาวเป็นเดือนที่ 4 แล้ว และมักกลายเป็นความรุนแรงอยู่บ่อยครั้งทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน กลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาล โดยเมื่อคืนวันที่ 21 ก.ย. ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมซึ่งขว้างปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ตำรวจและจุดไฟบนถนนหลายสาย
แม้แคร์รี แลม ผู้นำสูงสุดของฮ่องกงจะถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่ผู้ประท้วงก็ยังคงมีการชุมนุมต่อเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มรูปแบบด้วยการมีสิทธิ์เลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงเอง และให้มีการสอบสวนปฏิบัติการรุนแรงของตำรวจในการปราบปรามผู้ประท้วงในช่วงเวลาที่ผ่านมา
การประท้วงที่ไม่มีจุดจบกำลังเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับพรรคคอมมิวนิสต์จีนก่อนการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยรัฐบาลฮ่องกงยกเลิกการแสดงโชว์พลุในวันนั้น เนื่องจากมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของประชาชน
มีการปิดสองสถานีรถไฟสายด่วนไปสนามบินเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการคมนาคม ขณะที่การท่าอากาศยานฮ่องกงระบุว่า รถไฟจะให้บริการระหว่างสนามบินและสถานีกลางเมือง โดยไม่จอดสถานีระหว่างทาง มีการยกเลิกเส้นทางของรถบัสสนามบินด้วย โดยแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางไปสนามบินด้วย
มีการแจ้งกับผู้โดยสารบนรถไฟว่าจะมีการหยุดตามสถานีน้อยกว่าปกติ โดยไม่ได้ระบุถึงผู้ประท้วง มีการปิดเทปสีส้มที่สถานีว่างที่เกาลูน และมีตำรวจปราบจลาจลมาคอยคุ้มกันผู้โดยสารที่สถานีปลายทาง.