‘เอพี’ โชว์ครึ่งปีกวาดรายได้กว่า16,160 ล้านบาท
” เอพี ไทยแลนด์ ” เผยครึ่งปีสามารถสร้างรายได้รวมสูงสุด (รวมโครงการร่วมทุน) กว่า 16,160 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 1,565 ล้านบาท ยิ้มรับยอดขาย 7 เดือนแรกกว่า 24,000 ล้านบาท มั่นใจตลาดอสังหาฯ ระดับกลางถึงบนดีมานด์ยังมีอยู่ เผยมี 2 คอนโดไฮไลท์แบรนด์ LIFE เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ดันรายได้โตตามเป้า
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ครึ่งปีหลังกำลังซื้อมีแนวโน้มกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงกลางบน ถ้าเป็นสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมราคาเฉลี่ยไม่เกิน 200,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร สินค้าแนวราบมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ระดับราคา 3-10 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เอพี สร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโด (100% JV) ได้สูงถึง 16,160 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ สูงถึง 1,565 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลัง จะมาจากการเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 และ LIFE วัน ไวร์เลส โดยทั้ง 2 โครงการจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับแผนการเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ โดยเพิ่มการเปิดตัว RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน โครงการร่วมทุนโครงการที่ 18 มูลค่า 4,700 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการ พร้อมรอเปิดตัวใหม่อีกรวมทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,800 ล้านบาท
สำหรับ ผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนแรก สร้างยอดขายรวมได้แล้ว 24,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีโครงการรอเปิดตัวใหม่อยู่ในแผนอีกรวมทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,800 ล้านบาท
“ ภาพรวมตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งอายุของคนซื้อที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกความท้าทายของผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ ที่จะสร้างสรรค์ให้สินค้ามีความแตกต่าง โดดเด่นโดนใจผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในทุกช่วงชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์และครบวงจรที่สุด ” นายอนุพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ การปรับแผนเปิดโครงการใหม่ทำให้ปี 2562 เอพีเปิดตัวโครงการใหม่รวม 35 โครงการใหม่ มูลค่า 57,000 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมจำนวน 17 โครงการ มูลค่า 14,840 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 12 โครงการ มูลค่า 15,060 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 27,100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 54,898 ล้านบาท.