บชก.นำร่องจ่ายเบี้ยยังชีพฯ 9 ส.ค.นี้
บัญชีกลาง เลือก จ.สิงห์บุรี “นำร่อง” จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ โดยตรงเฉียด 3 หมื่นราย เริ่มจ่ายเดือนแรก 9 ส.ค.นี้ ระบุ อีก 11 จ.พร้อมจ่ายตรง 10 ก.ย.62 ก่อนปูพรมทั่วไทยในปีงบประมาณ 62
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง (ชบก.) กล่าวว่า กรมฯได้ดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฯ National e-Payment Master Plan ตั้งแต่เดือน ก.ย.59 เป็นต้นมา โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นแทนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท ได้แก่ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกรมกิจการเด็กและเยาวชน, เงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, เงินเดือนทหารกองประจำการของกระทรวงกลาโหม, เงินค่าป่วยการ อสม. ของกระทรวงสาธารณสุข, เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา มาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมความพร้อมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเงินเบี้ยความพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 76 จังหวัด โดยคัดเลือก จ.สิงห์บุรีเป็นหน่วยงานนำร่อง ซึ่งกรมฯได้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิได้โดยตรง ซึ่งกรมฯร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.สิงห์บุรี ทั้ง 41 แห่ง ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และได้รับการสนับสนุนจากกรมการปกครองในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคล เพื่อให้สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการให้กับผู้มีสิทธิใน จ.สิงห์บุรี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค.62 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.สิงห์บุรี ที่มีฐานข้อมูลพร้อมจ่ายเงินตามโครงการฯ จำนวน 30 แห่ง จากทั้งหมด 41 แห่ง แบ่งเป็น ผู้มีสิทธิที่จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้อายุ 25,624 ราย เป็นเงิน 16.9 ล้านบาท และผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ 4,277 ราย เป็นเงิน 3.4 ล้านบาท เริ่มจ่ายตรงเดือนแรกในวันที่ 9 ส.ค.62 สำหรับผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการใน จ.สิงห์บุรี ที่เหลืออีก 11 แห่ง จะเริ่มจ่ายตรงในวันที่ 10 ก.ย.62 โดยการจ่ายเงินดังกล่าวจะมีรอบการจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้นๆ
สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว หากมีเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ไม่พอจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ กรมบัญชีกลางมีแนวทางให้ความช่วยเหลือ อปท. เพื่อให้สามารถจ่ายเงินแก่ผู้มีสิทธิได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ สถ. แจ้งกรมบัญชีกลางขอใช้เงินยืมทดรองราชการเพื่อทดรองจ่ายตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมได้ และเมื่อสิ้นปีงบประมาณ หาก อปท. ใด มีเงินเหลือจากการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินที่เหลือจ่ายดังกล่าวคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของ อปท. เพื่อเป็นรายได้ของ อปท. ต่อไป
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวอีกว่า การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการแทน อปท. ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อผู้มีสิทธิ เนื่องจากผู้มีสิทธิจะยังคงได้รับสิทธิตามเดิม ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน รวมถึงช่องทางในการรับเงิน อีกทั้งช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแบ่งเบาภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กรมฯจะทยอยดำเนินการจ่ายเงินในอีก 8 จ.นำร่อง ได้แก่ จ.จันทบุรี จ.นครราชสีมา จ.มุกดาหาร จ.น่าน จ.อุทัยธานี จ.สมุทรสงคราม จ.พังงา และ จ.สงขลา คาดว่าในปีงบประมาณ 63 จะดำเนินการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการของ อปท. ครบทั้ง 76 จ. รวมถึงการจ่ายเงินค่าป่วยการ อสส. ในเขตกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งจะทำให้การจ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการครบทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 12.4 ล้านราย ตามเป้าหมายการดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ.