สุริยะย้ำ EEC หัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
สุริยะ ย้ำไทยมีโอกาศพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญรุดหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ชูEECหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ชัดเจน สร้างความมั่นใจให้กับนานาประเทศได้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานเสวนาเรื่อง “Roadmap to Success Up Close with Thailand’s New Ministry” โดยระบุว่า จากสถานการณ์การค้าโลกปัจจุบันที่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน ได้ส่งผลกระทบให้กับเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เห็นได้จาก GDP ของประเทศจีนที่อยู่ในระดับ 4.5-4.6 ซึ่งตกต่ำที่สุดในรอบ 28 ปี เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1 ก็ตกต่ำเช่นเดียวกัน ขณะที่ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบทำให้ GDP ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตชะลอตัวลง
“แม้ว่าจะมีปัญหาอุปสรรคต่างๆ แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศในมุมบวก ประเทศไทยยังมีโอกาสก้าวไปสู่การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ โดยการหาประโยชน์จากการที่ 2 ประเทศที่กำลังมีการแข่งขันกันสูง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเรื่องของกำแพงภาษีมาเกี่ยวข้อง ตรงนี้จะเป็นโอกาสของประเทศไทย ในการชักชวนนักธุรกิจจากทั้งสองประเทศให้มาลงทุนในประเทศไทย โดยในช่วง 2 เดือนนี้ ผมจะเดินทางไปยังประเทศเป้าหมายเพื่อชักชวนนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยหลักๆ ที่จะใช้ในการดึงดูดนักลงทุน ก็คงไม่พ้นที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบทางสภาพทางภูมิศาสตร์ ที่เราอยู่ตรงศูนย์กลางของภูมิภาคเป็นจุดศูนย์กลางอาเซียน และเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางด้านโลจิสติกส์ ที่เป็นประตูเชื่อมต่อไปยังประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และเวียดนาม
นอกจากนี้ เรายังมีโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่จะเป็นเสมือนหัวจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเมืองที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้ดูแลเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชุมชนรอบด้าน” นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าว
และในส่วนของการพัฒนา SMEs จะมีการยกระดับผู้ประกอบการ SMEs และ Start up ให้เติบโตและเข้มแข็ง ด้วยการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ผลิตภาพอุตสาหกรรม และนวัตกรรม มุ่งสู่เศรษฐกิจที่ตอบโจทย์วิถีไทย คือ ต้องสอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของไทยและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเริ่มจากการพัฒนาในระดับต้นน้ำ คือ ภาคเกษตรเชื่อมโยงภาคการเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปช่วยให้เกิด Smart Farming เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น ที่สำคัญคือการสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุน ผ่านมาตรการทางการเงินใหม่ๆ ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย หรือ คนตัวเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้.