คปภ.จี้เยียวยากรณีผู้เสียชีวิตศาลาน้ำถล่ม!
คปภ. เร่งประกันเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม! เผยจ่ายสินไหมแก่ทายาทวันนี้ (22 ก.ค.) ขณะที่อีกรายไม่ทำประกันภัย พร้อมจี้คนไทยบริหารความเสี่ยงภัยและเยียวยาความสูญเสียผ่านระบบประกันภัย
กรณีศาลาบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ท่าเรือข้ามฟากแสงวนิช อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ทรุดพังลงแม่น้ำแม่กลอง จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 20 ราย นั้น ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร (กลุ่มงานสื่อสารองค์กร) บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จ.นครปฐม ดูแลงานด้านประกันภัยในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เร่งติดตามและรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่ม หรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ไว้หรือไม่เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ล่าสุด ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จ.นครปฐม ว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มีเฉพาะราย น.ส.พรพิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี ที่ทำประกันภัยไว้ 2 กรมธรรม์ คือ กรมธรรม์ประกันสุขภาพกลุ่ม เลขที่ 1305046-PH เลขที่สมาชิก 9420031 ไว้กับ บมจ.บางกอกสหประกันภัย โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม เป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย โดยให้ความคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุ (อบ.2) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา และทุพพลภาพ วงเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท อีกกรมธรรม์เป็นการทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม ทำไว้กับ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย ชื่อ กรมธรรม์ประกันภัย THE SCHEDULE กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 32122427 สิ้นสุดการคุ้มครองวันที่ 1 ก.พ.63 โดยให้ความคุ้มครอง กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา การรับฟังเสียงหรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุทั่วไป วงเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท รวมวงเงินที่ผู้เสียชีวิตรายนี้จะได้รับจากการทำประกันภัยทั้ง 2 บริษัท 200,000 บาท แต่ผู้เสียชีวิตอีกรายคือ นางสุรีพร อุราชื่น อายุ 37 ปี จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นไม่พบว่ามีการทำประกันภัยไว้แต่อย่างใด
ในส่วนของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บนั้น ได้รับรายงานจาก ทั้ง 2 บริษัทฯ ว่า ได้ติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตในรายที่มีการทำประกันภัยและจะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทโดยธรรมในวันจันทร์ที่ 22 ก.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป ส่วนของผู้บาดเจ็บ 7 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม โดยสำนักงาน คปภ. จ.นครปฐม ได้อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยด้วยการแจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัยและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือ สามารถศึกษาข้อมูลด้านประกันภัยแบบเข้าใจง่ายๆได้จาก “คู่มือประกันภัย ฉบับประชาชน” โดยสามารถดาวน์โหลดเป็นต้นฉบับออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.