กสอ. สานต่อโครงการ พี่ช่วยน้อง ติดปีก SMEs
กสอ. ร่วมกับ เดลต้า สานต่อโครงการ Big Brother ปี4 ยกระดับศักยภาพการประกอบธุรกิจให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในยุคเศรษฐกิจ 4.0 ด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ.ได้ดำเนินโครงการ Big Brother (พี่ช่วยน้อง) โดย
ได้ร่วมมือกับทาง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ในการนำพาเอสเอ็มอีภาคการผลิตของไทยให้ไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยียุคใหม่อย่างต่อเนื่อง และในปีที่ 4 นี้ ทางเดลต้าได้สนับสนุนอุปกรณ์ Industrial Automation Demo Kit สำหรับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC 4.0) ทั้งหมด 8 ชุด รวมถึงสนับสนุนบุคลากรเข้ามาให้ความรู้เพื่อให้บุคลากรจากสถานประกอบการและบุคคลที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางด้านการผลิตแบบอัตโนมัติ
สำหรับงานด้านโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things – IIoT) จะเป็นการถ่ายทอดด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น IIoT และระบบอัจฉริยะสำหรับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงแนวคิดเรื่องของแนวทางการบริหารธุรกิจและเทคนิคด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจ เพื่อช่วยยกระดับให้กับภาคผลิตของไทยให้สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง
ที่ผ่านมา กสอ. ได้ร่วมมือกับเดลต้าในการสนับสนุนเงินทุนให้เปล่าในการจัดตั้งธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ ภายใต้ “โครงการ Angel Fund” ในแต่ละปีมีทุนสนับสนุนสูงสุดถึง 4 ล้านบาท มอบให้รายละไม่เกิน 500,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเดลต้าได้สนับสนุนเงินทุนจำนวนกว่า 10 ล้านบาท
ด้าน นายเซีย เซน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการจัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มโรงงานในหัวเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติ ประกอบด้วย ระบบส่วนติดต่อใช้งานกับเครื่องจักร (HMI), ระบบควบคุมการสั่งงานในโรงงาน (PLC) และระบบควบคุมมอเตอร์ (Drive) ที่สำคัญ คือ การให้ระบบทั้ง 3 ส่วนสามารถเชื่อมต่อการทำงานกันได้ ทำให้ระบบในโรงงานสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ เช่น จัดหาเงินทุนโดยร่วมมือกับธนาคารในการนำเสนอสินเชื่อที่เหมาะสม การคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน รวมถึงให้คำแนะนำในการปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ในสถานประกอบการ เพื่อยกระดับศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปสู่ระดับสากลต่อไป นายเซีย เซน เยน กล่าวทิ้งท้าย.