บอสดิสนีย์กังวลสงครามการค้ากับจีน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทดีสนีย์ออกโรงเตือนว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจ
โดยในปัจจุบัน ตลาดผู้บริโภคในจีนทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับธุรกิจภาพยนตร์และการค้าขายสินค้า และอาจกล่าวได้ว่าเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ซึ่งเป็นสวนสนุกธีมพาร์คแห่งแรกในจีน เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2559
แต่ยังคงมีความกลัวในนโยบายกีดกันทางการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยพูดว่าจะนำมาใช้ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งอาจบานปลายนำไปสู่การทำสงครามทางการค้าของสองประเทศได้
ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยพูดขู่ว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน เพื่อเป็นการรับมือกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลระหว่างสองประเทศ
โดยเขามองว่าจีนได้เปรียบสหรัฐฯ มากเกินไปจนทำให้สหรัฐฯ ต้องขาดดุลการค้ากับจีนสูงมาก
“ สงครามการค้ากับจีนจะบั่นทอนธุรกิจของดีสนีย์และส่งผลกระทบกับธุรกิจโดยทั่วไปด้วย ” นายบ๊อบ อิเกอร์ ซีอีโอของดิสนีย์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
เขายังได้วิจารณ์คำสั่งพิเศษที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามเพื่อแบน 7 ชาติมุสลิมและผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวอีกด้วย
“ เราไม่สามารถปิดพรมแดนของเราและไม่ต้อนรับผู้อพยพได้หรอก ” เขากล่าว
ซีอีโอของดิสนีย์ให้ความเห็นหลังจากบริษัทดิสนีย์รายงานยอดขายรวมของบริษัทที่ลดลงเกินคาดการณ์ไปอยู่ที่ 14,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนธ.ค. คิดเป็น 3% ที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปี 2558
โดยสาเหตุสำคัญคือรายได้จากโฆษณาที่ลดลงจากสถานีโทรทัศน์ช่องเคเบิล ESPN และรายได้ที่ลดลงถึง 7% จากธุรกิจภาพยนตร์
หุ้นของดิสนีย์ขานรับข่าวนี้ด้วยการปรับร่วงดิ่งลง 2% ทันทีหลังเปิดตลาดซื้อขาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย.ปี 2559 เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 7 ล้านคนแล้ว โดยบริษัทรายงานว่า ตั๋วเข้าชมขายหมดเกลี้ยงในช่วงเทศกาลฉลองวันหยุดปีใหม่ของจีนที่เริ่มตั้งแต่เมื่อสิบวันก่อน.