4 ประเทศเอเชียใช้จ่ายท่องเที่ยวเกือบ 20% ทั่วโลก
นักเดินทางท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศสำคัญในเอเชีย-แปซิฟิกคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทั่วโลกในปีที่แล้ว จากรายงานของมาสเตอร์การ์ด
โดยผลการศึกษาของมาสเตอร์การ์ดที่มีชื่อว่า “ Global Destination Cities Index :Origins ” พบว่า นักเดินทางจากจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวันมียอดใช้จ่ายคิดเป็น 18.5% ของยอดการใช้จ่ายใน 200 เมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลกในปี 2561 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 11% ในทศวรรษก่อน
รายงาน ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวบุคคลที่ 3 อย่าง World Travel & Tourism Council ได้ตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางค้างคืนระหว่างประเทศในปี 2561
เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยของมาสเตอร์การ์ดในอุตสาหกรรมเดินทางทั่วโลก มีกำหนดจะเผยแพร่ในปีนี้
จีน (รวมทั้งฮ่องกงและมาเก๊า) พุ่งทะยานขึ้นจากอันดับ 7 ในปี 2552 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในปีก่อน คิดเป็น 9% ของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวนานาชาติทั่วโลก
ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้และไต้หวัน ขึ้นมาติดอยู่ใน 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรก คิดเป็น 3.4% และ 2.3% ตามลำดับ และญี่ปุ่นคิดเป็น 3.1% ลดลงมาสองอันดับในช่วง 10 ปีล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการใช้จ่ายในการเดินทางโดยรวม จีนโดดเด่นด้วยตัวเลข 9.6% และตามมาติดๆด้วยตัวเลข 9.2% ของสหรัฐฯ
โดย 10 อันดับแรกของประเทศที่มีนักเดินทางมากที่สุดทั่วโลกคือ
1.สหรัฐฯเมริกา 2.จีน (ไม่รวมฮ่องกงและมาเก๊า) 3.เยอรมนี 4. สหราชอาณาจักร 5.ฝรั่งเศส 6.เกาหลีใต้ 7.ญี่ปุ่น 8.แคนาดา 9. รัสเซีย 10.ไต้หวัน
รายงานระบุว่า นักเดินทางเพื่อธุรกิจและท่องเที่ยวจาก 10 ตลาดสำคัญรวมกันคิดเป็นเกือบครึ่ง (49.1%) ของนักเดินทางค้างคืนนานาชาติใน 200 จุดหมายปลายทางในปีก่อน และคิดเป็น 48.4% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด.