ลอนดอนประกาศวันปลอดรถยนต์หวังลดมลพิษ
ลอนดอน (ซีเอ็นเอ็น) – กรุงลอนดอนเตรียมรับอากาศบริสุทธิ์ในวันปลอดรถยนต์ที่มีระยะทางยาวที่สุด โดยจะมีการปิดถนนระยะทางถึง 20 กม.
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนเผยแผนที่จะจัดให้วันที่ 22 ก.ย. เป็นวัน คลีน แอร์ เดย์ เพื่อช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงลอนดอน โดยวันปลอดรถยนต์จะยิ่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัย “นำไปปรับใช้” ในพื้นที่อยู่ของตนเองอีกด้วย
สำนักนายกเทศมนตรีระบุว่า ชาวลอนดอนมากกว่า 2 ล้านคน อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ หรือ NO2 มากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่จำนวนมากกว่า 4 แสนราย
อ้างอิงจากรายงานภาวะอากาศโลก หรือ SOGA ประจำปี 2562 ระบุว่า มลพิษทางอากาศจะกลายเป็นปัจจัยหลักอันดับที่ 5 ที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตทั่วโลก โดยส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตมากกว่า แอลกอฮอล์ การสขาดสารอาหาร และการเสพสารเสพติด
เมื่อเดือน เม.ย. สำนักนายกเทศมนตรีระบุว่า ยานพาหนะเป็นต้นเหตุของการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ที่เป็นอันตรายกว่าครึ่งในกรุงลอนดอน ซึ่งนำไปสู่วิกฤตสภาพอากาศเป็นพิษที่ทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด มะเร็ง และสมองเสื่อม รวมไปถึงการก่อให้มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรนับพันรายทุกปี
ในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. จะมีกิจกรรมหลายร้อยอย่างบนถนนปลอดรถยนต์ โดยเขตเมืองเล็ก ๆ 18 เมือง จากทั้งหมด 32 เขตเมืองในกรุงลอนดอนได้ตอบตกลงเข้าร่วม รวมถึงผู้สร้าง “เพลย์ สตรีตส์” ที่ทำให้เด็ก ๆ และประชาชนสามารถรวมตัวกันได้อย่างปลอดภัย
นายกเทศมนตรีข่านระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “วันปลอดรถยนต์จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราทุกคนในการทิ้งรถเอาไว้ แล้วได้สำรวจเส้นทางถนนด้วยการเดินเท้า หรือจักรยาน” เขายังเสริมอีกว่า จะเป็นการร่วมสนุก และได้เปิดโลกเพื่อมองกรุงลอนดอนจากมุมมองที่แตกต่างจากเดิม
ผลสำรวจด้านการขนส่งของกรุงลอนดอนล่าสุดพบว่า ชาวลอนดอนเกือบ 1 ใน 2 ไม่ได้ตระหนักว่ายานพาหนะคือสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
อรีบา ฮามิด นักรณรงค์โครงการอากาศบริสุทธิ์จากกรีนพีซ ประจำสหราชอาณาจักร ระบุว่า การกระทำเช่นนี้จะช่วยเปิดใจประชาชนทุกคนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเป็นไปได้เมื่อเราให้ความสำคัญกับประชาชนมากกว่ารถยนต์
เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อังกฤษได้กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่กำหนดให้มีเขตปล่อยมลพิษต่ำที่สุดตลอดเวลาในเมือง โดยรถยนต์แต่ละคันจะต้องผ่านมาตรฐานควบคุมการปล่อยมลพิษที่เข้มงวด หรือไม่ก็จะต้องถูกปรับเงินตามกฎหมาย.