จีนเร่งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
จีนเผยมาตรการต่อเนื่องเพื่อเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค และหนุนให้ผู้ส่งออกเน้นตลาดในประเทศเพราะยังต้องต่อสู้กับสหรัฐฯในสงครามการค้าต่อไป
ในเอกสารนโยบายที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ระบุว่า สภารัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีของจีน ได้ชี้ให้เห็นถึง 20 มาตรการในการช่วยหนุนการบริโภคในประเทศ ซึ่งมีตั้งแต่การปรับปรุงพัฒนาการค้าแผงลอยข้างถนนไปจนถึงตลาดกลางคืน
โดยคำประกาศ ลงวันที่ 16 ส.ค. มีขึ้นหลังจากการเติบโตของค้าปลีกชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 7.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน และเป็นการชะลอตัวครั้งใหญ่จากตัวเลขการเติบโต 9.8% ในเดือนมิ.ย. จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ในความเป็นจริง ตัวเลขการเติบโตอาจต่ำกว่านั้นอยู่ที่ 5.7% ในเดือนก.ค.
การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวอยู่ที่ 6.2% ในไตรมาส 2 จากเดิม 6.4% ในทั้งสองไตรมาสก่อนหน้านี้
มาตรการใหม่ยังรวมถึงการกำกับดูแลให้บริษัทอีคอมเมิร์ซเป็นหุ้นส่วนกับโรงงานเพื่อออกแบบการผลิตตามความต้องการของลูกค้าเพื่อหนุนยอดขาย ปรับรูปแบบห้างสรรพสินค้าที่กำลังดิ้นรนอย่างหนัก เปลี่ยนสนามกีฬาเก่าและโรงงานเก่าเป็นช้อปปิงมอลล์และศูนย์กลางความบันเทิง ปรับปรุงหน้าตาของแผงลอยริมถนน และเร่งพัฒนาเชนร้านสะดวกซื้อ
โดยรัฐบาลปักกิ่งยังได้เรียกร้องให้ผู้ส่งออกจีน ซึ่งจำนวนมากติดกับดักอยู่ในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ เร่งพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเองและขยายช่องทางการขายในประเทศเพื่อดันยอดขาย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางต้องการขยายธุรกิจนำเข้าข้ามพรมแดนเข้ามาในหลายเมืองของจีนเพื่อให้สอดคล้องกับดีมานด์สินค้าต่างประเทศคุณภาพสูง
บางมาตรการถูกรวมอยู่ในความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ และมีการนำมาปฏิบัติแล้วในบางเมือง รวมถึงแผนในการให้เงินอุดหนุนสำหรับผู้บริโภคในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเทค ตัวอย่างเช่น ในเดือนก.ค. เทศบาลกรุงปักกิ่งได้ออก 13 มาตรการเพื่อสร้าง “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจกลางคืน” รวมถึงการขยายการให้บริการทัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้เงินอุดหนุนค่าบัตรชมการแสดง และพัฒนาตลาดช้อปปิงกลางคืนใน 16 เขตของกรุงปักกิ่ง
เพื่อดันยอดขายรถยนต์ให้สูงขึ้น รัฐบาลกลางระบุว่า ในบางพื้นที่ซึ่งมีการคุมเข้มการซื้อรถยนต์ควรมีการพิจารณาผ่อนปรนอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้แต่ในเมืองที่มีการจำกัดการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อควบคุมปริมาณมลพิษก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่นควรอนุญาตให้มีการขายรถยนต์มือสองที่ถูกต้องตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษขั้นต่ำของรัฐบาล
จากที่เคยเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการบริโภคโดยรวม ยอดขายรถยนต์ของจีนซบเซาลงเกินคาดในปีนี้ ด้วยยอดขายที่ร่วงลง 2.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน จากข้อมูลของ NBS โดยใน 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายรถในตลาดจีนเติบโตเพียง 0.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว.