ตลาดหุ้นเอเชียดิ่งตามสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นสิงคโปร์ดิ่งร่วงลง 3% ลงมาต่ำสุดในรอบ 20 เดือนเมื่อวันที่ 11 ต.ค.รวมถึงตลาดหุ้นอื่นในเอเชียที่พากันดิ่งเหวตามรอยวอลล์สตรีทที่มีการเทขายหุ้นมากจนนักลงทุนกังวล
นักลงทุนในสิงคโปร์เทขายหุ้นทั่วกระดาน ท่ามกลางหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุ ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงคำเตือนจาก IMF เกี่ยวกับเสถียรภาพการเงินทั่วโลก และความเสี่ยงในการเติบโต
ดัชนีสเตรทไทม์ (STI) ของสิงคโปร์ร่วงลงต่ำอยู่ที่ 3,035.2 จุด ถือว่าต่ำที่สุดตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ปีที่แล้ว ก่อนที่จะปรับฟื้นขึ้นมา 2.7% มาอยู่ที่ 3,047.39 โดยหุ้นสถาบันการเงินได้รับผลระทบร่วงลงมามากสุด จากธนาคาร UOB , DBS และ OCBC โดยแต่ละที่ร่วงลงมา 2.5% ในช่วงปิดการซื้อขาย โดยรวมแล้ว มีการซื้อขาย 2,100 ล้านหุ้นซึ่งมีมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ที่ตลาดสิงคโปร์เมื่อวันที่ 11 ต.ค. โดยหุ้นที่ขาดทุนมีมากกว่าหุ้นที่กำไรคือ 429 ต่อ 72
ทั้งนี้ ทั่วภูมิภาคเอเชีย ดัชนีคอมโพสิทเซี่ยงไฮ้ของจีนร่วงลงมากกว่า 6% ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาบ้างคิดเป็นร่วงลง 5.22% ที่ 2,583.46 จุด โดยไม่เคยมีการดิ่งร่วงลงมาต่ำถึงระดับนี้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ปีที่แล้ว
ขณะที่ในฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งปิดตัวลดลงมา 3.5% อยู่ที่ 25,266.37 จุด ซื่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 2560 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ก็ดิ่งร่วง 1.1% ลงมาอยู่ที่ 2,219.67 จุด ซึ่งเป็นการลดฮวบลงมากที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี ขณะที่ดัชนีนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่นปรับลดลงถึง 3.9% มาอยู่ที่ 22,590.86 จุด
การดิ่งฮวบลงของตลาดหุ้นในเอเชียนับเป็นความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 830 จุด ซึ่งเป็นการดิ่งร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้
สถานการณ์ของวอลล์สตรีทในวันที่ 10 ต.ค.เลวร้ายมากจนสามารถดึงดูดความสนใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวว่า การเทขายที่จริงแล้วเป็นเหมือนการแก้ไขข้อผิดพลาดที่รอมานาน และธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นบ้าไปแล้ว
Steven Leung ผู้อำนวยการฝ่ายขายที่บริษัทโบรกเกอร์ UOB Kay Hian ระบุว่า ผลกระทบของการเทขายหุ้นใสหรัฐฯ และความกังวลเรื่องสงครามการค้าส่งผลต่อตลาดหุ้นและลุกลามไปทั่วเอเชีย
“ เราไม่เคยเห็นการดิ่งร่วงของตลาดหุ้นสหรัฐฯขนาดนี้มาสักพัก ตลาดไม่แน่ใจว่าจะสงครามการค้าจะลากยาวนานแค่ไหน ตลาดยังกังวลว่าความสัมพันธ์ของสหรัฐฯกับจีนจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ” เขากล่าว
โดยล่าสุด มีรายงานว่าตลาดหุ้นในยุโรปเองก็ดิ่งลงตามตลาดอื่นทั่วโลก ในลอนดอน ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 7,023 จุด ที่ปารีส ดัชนี Cac 40 ปรับลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 5,119 จุด ขณะที่ ดัชนี Dax ในแฟรงค์เฟิร์ตลดลง 1.3% ลงมาอยู่ที่ 11,559 จุด
ดัชนี FTSE 100 และ Cac 40 ร่วงลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ขณะที่ดัชนี Dax ปรับลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกพร้อมใจกันเทขาย หลังคริสตีน ลาการ์ด ประธาน IMF ออกโรงเตือนว่า มูลค่าของตลาดหุ้นสูงมาก.