สิงคโปร์-มาเลย์ร่วมสอบเงินหายกองทุน 1MDB
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสิงคโปร์และมาเลเซียทำงานร่วมกันในกรณีกองทุน 1Malaysia Development Berhad ( 1MDB) ที่อื้อฉาวในปุตราจายา มาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 พ.ค.
โดยคณะทำงานทั้งสองประเทศตกลงที่จะประสานความร่วมมือกันเพื่อกอบกู้เงินที่เชื่อว่ามีการทุจริตยักยอกออกไปจากกองทุนของรัฐแห่งนี้กลับคืนมา
ในการแถลงข่าว คณะทำงานของมาเลเซียระบุว่า ทั้งสองชาติจะทำงานร่วมกันเพื่อรวบรวมหลักฐานและติดตามแกะรอยพยานในสิงคโปร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ คณะทำงานจะสืบสวนสอบสวนเส้นทางการการเงินที่เกี่ยวข้องเพื่อตามหาเงินสดและทรัพย์สินที่ยังคงเหลืออยู่กลับมา
โดยการประชุม ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตของมาเลเซีย ( MACC) มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสิงคโปร์ 9 นายมาร่วมประชุม ทั้งอัยการสูงสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และธนาคารกลางสิงคโปร์
ขณะที่ตัวแทนจากมาเลเซีย มีอับดุล กานี ปาตาอิล อดีตอัยการสูงสุดซึ่งเป็นผู้สอบสวนในคดีนี้ก่อนที่จะถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งในเดือนก.ค.ปี 2558 และ โมด ชูครี อับดุล ประธาน MACC รวมอยู่ด้วย
มีอย่างน้อย 6 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯและสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีการสอบสวนพบว่ามีการยักยอกเงินจำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว
114,900 ล้านบาท ออกไปจากกองทุน 1MDB ซึ่งถูกเปิดเผยในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค
“คณะทำงานของมาเลเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนกองทุน 1MDB และเราเห็นพ้องให้มีการประชุมในกัวลาลัมเปอร์” โฆษกหญิงของสำนักงานตำรวจแห่งสิงคโปร์รายงาน แต่เธอไม่ได้ให้รายละเอียดของความช่วยเหลือที่สิงคโปร์มีให้กับมาเลเซีย
ข่าวนี้มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังเจ้าหน้าที่มาเลเซียพบกับเจ้าหน้าที่จาก FBI และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งเอ่ยถึงอดีตนายกฯนาจิบว่า เป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์ 1 ของมาเลเซียในการสอบสวนกระบวนการฉ้อราษฏร์บังหลวงในกองทุน 1MDB
ที่ผ่านมา อดีตนายกฯนาจิบปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้กระทำความผิด และกล่าวในปี 2559 ว่ารัฐบาลมาเลเซียจะให้ความร่วมมือกับการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของสหรัฐฯ
ขณะที่ทางสิงคโปร์ได้ปฏิบัติการลงโทษธนาคารและเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ล้มเหลวในการควบคุมไม่ให้เกิดการฟอกเงินจากธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB รวมถึงการสั่งปิดหลายหน่วยงานของธนาคาร BSI และธนาคาร Falcon
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียให้คำมั่นว่าจะทำการสอบสวนคดีกองทุน 1MDB ที่อื้อฉาวอีกครั้ง และลงโทษอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ หรือได้ผลประโยชน์ หรือคอร์รัปชั่นจากกองทุน โดยเขาสั่งรื้อคดีนี้ทันทีที่เขาชนะการเลือกตั้งเข้ามาอย่างเหลือเชื่อในวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา และสั่งห้ามไม่ให้อดีตนายกฯนาจิบเดินทางออกนอกประเทศ
โดยนาจิบได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแล้ว เพื่ออธิบายว่า ทำไมจึงมีการโอนเงินจำนวน 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 341 ล้านบาท จากกองทุนเข้าบัญชีธนาคารของเขา
สัปดาห์ก่อน รมว.กระทรวงการคลังของมาเลเซียกล่าวว่า เงินกองทุนที่มีดีลกับธนาคารกลางและกองทุนความมั่งคั่ง Khazanah ถูกใช้ไปโดยรัฐบาลชุดที่แล้วเพื่อจ่ายหนี้สินที่เกิดจากกองทุนที่มีปัญหา
ทั้งนี้ ตำรวจมาเลเซียรายงานว่า จากการสืบสวนสอบสวนสามารถยึดเงินสดจำนวน 114 ล้านริงกิตหรือราว 932 ล้านบาทและกระเป๋าแบรนด์เนม ราคาแพงมากกว่า 400 ใบได้จากบ้านของนาจิบ และอพาร์ทเมนต์ของบุตรชายของเขา.