ดูเตอร์เตให้อำนาจตร.ออกหมายเอง
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ได้ลงนามในกฎหมายที่ให้อำนาจกับผบ.ตร.และสองตำรวจอาวุโสในการออกหมายเพื่อเร่งกระบวนการสืบสวนสอบสวนให้เร็วขึ้น โฆษกของเขารายงานเมื่อวันที่ 10 มี.ค.
โดยกฎหมายนี้จะเป็นการเพิ่มครื่องมือให้กับตำรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายและหาวิธีไขคดีอาชญากรรมได้มากขึ้น โฆษก Harry Roque ของประธานาธิบดีกล่าวในงานแถลงข่าว
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ฉบับนี้ โดยระบุว่า กำลังตำรวจฟิลิปปินส์เป็นที่รู้จักกันดีในแง่การละเมิด และสามารถใช้อำนาจที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อเพิ่มข้อหาทางอาญาให้กับกลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์การบริหารประเทศของผู้นำฟิลิปปินส์
หนึ่งในแคมเปญหลักของประธานาธิบดีดูเตอร์เตที่สัญญาไว้กับผู้สนับสนุนของเขาในช่วงหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2559 ว่าจะกวาดล้างอาชญากรรมและปราบปรามการค้ายาเสพติดโดยใช้กำลังอย่างเฉียบขาดรุนแรง
มีผู้ต้องสงสัยประมาณ 4,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองและยากจนที่ถูกตำรวจวิสามัญจนเสียชีวิตในช่วง 20 เดือนที่ผ่านมาในการปราบรามยาเสพติดผิดกฎหมายอย่างโหดร้ายรุนแรงที่ทำให้ประชาคมนานาชาติรู้สึกกังวล นักเคลื่อนไหวเชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่านี้
ภายใต้กฎหมายใหม่ อำนาจในการออกหมายเรียกจะเป็นอำนาจพิเศษของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการ และรองผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนและป้องกันอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์
“ หมายเรียกควรเป็นไปตามกระบวนการและจุดประสงค์ของการสืบสวน ควรกำหนดได้โดยตรงกับผู้ที่ต้องการจะเรียกเข้ามาสอบสวน ” อ้างอิงจากกฎหมาย ซึ่งประธานาธิบดีดูเตอร์เตลงนามเมื่อวันที่ 1 มี.ค.
Gabriela กลุ่มผู้สนับสนุนสวัสดิการของผู้หญิงอธิบายว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้เป็นเหมือน ‘ไฟเขียว’ ให้มีการวิสามัญฆาตกรรมมากขึ้น มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ตามใจชอบ และสามารถตั้งข้อกล่าวหากับผู้ที่มีความคิดขัดแย้งและฝ่ายค้าน
“ เราขอแสดงจุดยืนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ควรมีอำนาจกึ่งตุลาการ หรือ มีการไต่สวนคล้ายอัยการ โดยเฉพาะกับผู่ที่ไม่อาจโต้แย้งได้ในข้อหาคอร์รัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และอำนาจในการใช้วิธีการที่สามารถลัดขั้นตอนได้อย่างถูกกฎหมาย ” ทางกลุ่มระบุในแถลงการณ์
โฆษก Roque กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าตำรวจทุกคนจะมีอำนาจในการออกหมาย และการออกหมายไม่ได้แปลว่าจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้โดยอัตโนมัติ
“ อำนาจของหมายจะให้ความหวังกับเหยื่ออาชญากรรมจำนวนมากซึ่งไม่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่ล่าช้า หรือขานรับกับอาชญากรรมที่ไม่สามารถถูกบังคับให้สอบสวนต่อหน้าได้ ” เขากล่าว