ทารกถูกทิ้งในเมียนมาเพิ่มขึ้น 3 เท่า
จำนวนทารกแรกเกิดที่ถูกทอดทิ้งเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 3 เท่าในนครย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ อ้างอิงจากข้อมูลขององค์กรการกุศล โดยสาเหตุสำคัญเบื้องหลังปรากฎการณ์ทางสังคมนี้คือความยากจนและอิทธิพลของค่านิยมจากต่างประเทศในกลุ่มคนอายุน้อย
อชิน ธัมมะ นันทะ โฆษกของ Yellow Wave Generation Parahita Group ในเมืองมัณฑะเลย์ ระบุว่า จำนวนเด็กทารกแรกเกิดที่ถูกทอดทิ้งและนำมาให้กับทางองค์กร ในเดือนม.ค.- ต.ค.ในปีนี้มีถึง 49 คน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับทารกที่ถูกทิ้ง 19 คนที่ทางองค์กรได้รับตลอดทั้งปี 2559
“คิดว่าทารกที่ถูกทิ้งมีจำนวนมากกว่านี้ จากเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาขึ้น การเลียนแบบพฤติกรรมของคนในประเทศอื่น มีวัยรุ่นหลายคู่ที่อยู่ด้วยกันและเมื่อมีลูก ก็ทิ้งลูก”
“มีหลายกรณีที่ผู้ชายทิ้งผู้หญิง และผู้หญิงก็ทิ้งลูก แต่ก็มีบางคู่ที่มีลูกในเมืองนี้ แต่ด้วยสถานการณ์บางอย่างบังคับ พวกเขาต้องกลับไปบ้านเกิด ก็เลยตัดสินใจทิ้งลูกไว้ที่นี่”
อชิน ธัมมะ นันทะ กล่าวว่า ในบรรดาพ่อแม่ที่ทิ้งลูกเหล่านี้ มีนักศึกษามหาวิทยาลัยในมัณฑะเลย์และย่างกุ้งรวมอยู่ด้วย
“ส่วนใหญ่นักศึกษาที่ทิ้งลูกจะเป็นเด็กที่มาจากชนบท” เขากล่าว โดยเสริมว่า มีทารกถูกทิ้งไว้ในหลายสถานที่ ทั้งโรงพยาบาล สถานีรถไฟ ตลาดขายอัญมณี สนามบิน หรือแม้แต่ถังขยะ
อู ทัน เนง คุณครูจากมัณฑะเลย์ เรียกร้องให้พ่อแม่ดูแลและใส่ใจกับลูกสาวของพวกเขาให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโตเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม
“เป็นเรื่องน่าละอายมากที่เรื่องแบบนี้เกิดจากนักศึกษาในมหาวิทยาลัย นักศึกษาไม่ควรทำแบบนี้ ผมว่าผิดกันทั้งสองฝ่าย พ่อแม่ก็ไม่ควรทิ้งลูกสาวให้อยู่คนเดียว เพียงเพราะลูกเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว”
ปัจจุบัน Yellow Wave Generation Parahita Group 13 แห่งในหลายพื้นที่และหลายรัฐได้รับอุปการะทารกที่ถูกทอดทิ้งทั้งหมด 110 คน โดยมีจำนวนสูงสุดในมัณฑะเลย์
โดยทางองค์กรระบุว่า พวกเขาต้องการนมผงทารกและของใช้ของเด็กจำนวนมากเพื่อดูแลเด็กๆเหล่านี้
นัน มอก ไซ ผู้อำนวยการเขตมัณฑะเลย์ จากกระทรวงสวัสดิการสังคมกล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่ทิ้งลูกได้
“เราไม่เคยเห็นทารกที่กำลังจะถูกทิ้ง ที่เราพบคือทารกถูกทิ้งไว้แล้ว เราเพียงแต่ส่งเด็กๆไปที่สถานสงเคราะห์เด็กเพื่อให้การเลี้ยงดูพวกเขาเท่านั้น”
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่เมืองมัณฑะเลย์ กล่าวว่า การทอดทิ้งทารกเกิดจากความยากจนและการขาดความรู้ด้านเพศศึกษา“มีการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน แต่เด็กๆไม่ฟังครู และหลายคนคิดว่าไม่จำเป็นต้องฟัง คู่รักวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์กัน ผลที่ตามมาคือการทอดทิ้งทารกแรกเกิด”
“อันที่จริง มีหลายวิธีที่จะป้องกันไม่ให้มีลูกถ้าพวกเขาไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ ความรู้ที่อ่อนด้อยเรื่องเพศศึกษาทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย”.