เขื่อนเวียดนามระบายน้ำ ทำปลาตาย 280 ตัน
หลายครัวเรือนหวาดกลัวกับเหตุดินถล่มหลังจากการปล่อยน้ำในเขื่อนทวีความรุนแรงขึ้นในวันที่ 23 ก.ค.
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปล่อยน้ำในเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ทำให้ปลาช็อกและตายมากถึง 280 ตัน และทำให้เหล่าเกษตรกรสูญเสียรายได้กว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Hoa Binh หรือโรงงานไฟฟ้าที่มีชื่อตามจังหวัดที่ตั้ง เริ่มปล่อยน้ำครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยปล่อยน้ำออกมาเฉลี่ยราว 2,400 ลบ.ม./วินาที ซึ่งมากพอที่จะเติมสระว่ายน้ำโอลิมปิกได้
ผู้รับมือภัยพิบัติของ Hoa Binh และหน่วยกู้ภัย ระบุว่า การระบายน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมทุ่งข้าว 6 เฮกเตอร์ และฆ่าปลาไปมากกว่า 39.5 ตัน เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเหตุดินถล่ม และมากกว่า 13 ครอบครัวได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้บ้านหลายหลังมีรอยแตกร้าว
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. มีชาย 2 รายจมน้ำ หลังเรือของพวกเขาพลิกคว่ำเพราะแรงของน้ำที่ยังคงท่วมหนัก แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
Tran Quang Hoai จากคณะกรรมการป้องกันและควบคุมภัยธรรมชาติ ระบุว่า ในวันที่ 19 ก.ค. เหตุรุนแรงที่เกิดจากเขื่อนในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบไปยังจังหวัดใกล้เคียงอย่าง Phu Tho ซึ่งทำให้ปลาที่เลี้ยงในฟาร์มตายอย่างน้อย 240 ตัน
เขาระบุว่า ปริมาณน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ปลาเกิดอาการช็อก โดยจำนวนปลาที่ตาย มีมูลค่าราว 515,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เขื่อนผลิตไฟฟ้าแห่งนี้สูงถึง 128 เมตร และมีระยะทางยาว 970 เมตร มีรายงานว่าเตรียมการจะเปิดประตูเขื่อนที่ชั้นสามต่อไป
ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ก่อนการระบายน้ำได้มีการแจ้งไปยังฮานอยและจังหวัดทางภาคเหนืออย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ที่มีการระบายน้ำในครั้งนี้เป็นเพราะฝนที่ตกหนักทำให้ระดับน้ำในเขื่อนสูงเหนือกว่าที่ได้กำหนดไว้ราว 5 เมตร ซึ่งช่วงฤดูมรสุมที่รุนแรงที่สุดกำลังจะมาถึง.