ส่งออกเสื้อผ้ากัมพูชาโตในตลาดยุโรป
อุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าของกัมพูชาเติบโตแซงคูแข่งอย่างเวียดนาม เนื่องจากเป็นซัพพลายเออร์สำคัญของสหภาพยุโรป และกำลังจะแซงอินเดีย อ้างอิงจากวงในของอุตสาหกรรมส่งออกเสื้อผ้า
“ ภายในเวลา 5 ปี กัมพูชาได้เติบโตไต่ระดับขึ้นมาจากซัพพลายเออร์เสื้อผ้าลำดับที่ 10 ของสหภาพยุโรปขึ้นมาอยู่ที่ 5 ในปัจจุบัน รองจากจีน บังคลาเทศ ตุรกี และอินเดีย ” Michael Scherpe ซีอีโอของ Messe Frankfurt France ซึ่งเป็นบริษัทจัดงานแสดงสินค้าทั่วโลกในส่วนเสื้อผ้า ซึ่งมีฐานที่มั่นในประเทศเยอรมนีกล่าว
เขายังได้ชี้ให้เห็นถึงตัวเลขจากสหภาพยุโรปที่แสดงว่า การส่งออกเสื้อผ้าจากกัมพูชาไปยุโรปเติบโตถึง 14% ในปี 2559 มีมูลค่าถึง 3,800 ล้านยูโร ทำให้กัมพูชาสามารถแซงเวียดนามได้แล้วในขณะนี้ เขายังได้เสริมอีกว่า “ เป็นไปได้ที่กัมพูชาจะเติบโตแซงหน้าอินเดียได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า”
โดยตัวเลขการค้าในปี 2559 จากรายงานประจำปีของคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าระบุว่า ยอดส่งออกเสื้อผ้าของเวียดนามมีมูลค่ารวม 3,200 ล้านยูโร มีการเติบโตอยู่ที่ 6.8% ขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกโดยรวมของอินเดียอยู่ที่ 5,600 ล้านยูโรในปีที่แล้ว ด้วยตัวเลขการเติบโตเป็นลบคือ – 0.7%
“ กัมพูชากลายเป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญของตลาดยุโรป ขณะที่มีการเติบโตมากกว่าประเทศคูแข่ง และผมคิดว่า ต้องย้ำให้เห็นชัดว่า ตลาดยุโรปในปัจจุบันคิดเป็น 43% ของการส่งออกของกัมพูชา ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ มีสัดส่วนคิดเป็น 29%” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่ากัมพูชาเติบโตได้ในตลาดอียูเพราอยู่ภายใต้ข้อตกลง ‘ทุกอย่างยกเว้นอาวุธ’ ซึ่งอนุญาตให้สินค้าเสื้อผ้าเข้าไปขายในตลาดยุโรปได้โดยปลอดภาษี และคาดการณ์ว่าข้อตกลงจะสิ้นสุดลงเมื่อกัมพูชาขยับสถานะประเทศออกจากกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC)
“ หากมีการยืนยันสถานะของประเทศกัมพูชาใหม่จากสหประชาชาติ ซึ่งก็ดูจะมีแนวโน้มความเป็นไปได้มากทีเดียว กัมพูชาจะสูญเสียสถานะ LDC และจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษอีก”
“ อาจกล่าวได้ว่า กัมพูชามีช่วงเวลาที่พิเศษสุดประมาณ 3 ปีเพื่อปรับเปลี่ยนสถานะใหม่ให้กับประเทศ” เขากล่าว
นอกจากนี้ อีกอุปสรรคสำคัญของกัมพูชาในส่วนเสื้อผ้าของตลาดอียูคือ การบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอียูกับเวียดนาม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในสิ้นปี 2560 นี้ ทำให้อียูจะค่อยๆลดภาษีนำเข้าจากเวียดนามจากเดิม 12% ลงเป็น 0%
ทั้งนี้ เขาเสริมว่า เวียดนามเตรียมพร้อมที่จะคว้าความได้เปรียบจากการลดภาษีศุลการกรครั้งนี้อย่างเต็มที่
ดังนั้น กัมพูชาจึงต้องหาวิธีการที่จะคงความสามารถในการแข่งขันไว้ให้ได้ “ ผมไม่สามารถที่จะให้คำแนะนำที่ดีพอ นอกจากกัมพูชาต้องพยายามที่จะปรับปรุงพัฒนาความสามารถในการแข่งขันและการตลาดในระดับประเทศ” เขากล่าวสรุป.
หมายเหตุ 1 ยูโร = 38.73 บาท / 29 พ.ค. 2560