“COCO CRACK” มะพร้าวพร้อมจุกตอบโจทย์ผู้บริโภค
ธุรกิจสามารถเริ่มต้นได้จากจุดเล็กๆบนความชื่นชอบส่วนตัวต่อพฤติกรรมของตนเองอย่างใดอย่างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ออกมาให้เป็นผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หรือไม่ “นัฐพงษ์ ท้วมเกร็ด” คือชายหนุ่มที่เลือกหยิบจับเอาความชื่นชอบส่วนตัวในการรับประทานน้ำมะพร้าวเป็นอย่างมากมาปรับประยุกต์ให้เกิดเป็นธุรกิจมะพร้าวพร้อมจุกเปิดภายใต้แบรนด์ “Coco Crack” และ Startup ธุรกิจขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคม 2560
-ชอบรับประทานสู่การทำขาย
นัฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รูท คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด บอกถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นธุรกิจ ว่า มาจากการที่ตนเองเป็นผู้ที่มีบ้านเกิดอยู่ดินแดนที่อุดมไปด้วยมะพร้าวอย่าง อ.สามพราน จังหวัดนครปฐม ทำให้มีโอกาสได้คลุกคลี รวมถึงรับประทานมะพร้าวมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก และมีความชื่นชอบมาก อีกทั้งตนเองยังเป็นคนที่ชอบงานประดิษฐ์ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ โดยมักจะนำวัสดุต่างๆมาทดลอง และประดิษฐ์ออกมาเป็นสิ่งของอยู่เสมอ จนมีเหตุการณ์หนึ่งที่นำมาพาไปสู่ประกายไอเดียในการทำธุรกิจ
ทั้งนี้ ความบังเอิญดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ตนเองกำลังทำความสะอาดบ้าน และพลาดท่าไปทำขวดไวน์ของคุณพ่อหล่นแตก ซึ่งทำให้ได้พบกับจุกไวน์ที่หล่นอยู่บนพื้น จนนำมาสู่ไอเดียของการนำจุกไม้มาไว้บนลูกมะพร้าว เพื่อใช้เป็นสะพานเชื่อมต่อความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในการรับประทานน้ำ และเนื้อมะพร้าว โดยกว่าที่จะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์มะพร้าวพร้อมจุกภายใต้แบรนด์ “Coco Crack” ต้องใช้ระยะเวลาในการลองผิดลองถูกนานถึง 2 ปี กว่าจะประสบความสำเร็จออกมาได้อย่างที่เห็นวางจำหน่ายอยู่
“ขั้นตอนการหามะพร้าวมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยตนต้องตระเวนหาซื้อมะพร้างจากที่ต่างๆมาเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพจนกระทั่งได้รสชาติของมะพร้าวที่ดีที่สุดตามที่ต้องการ นั่นก็คือมะพร้าวที่มาจากบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากนั้นจึงนำมาผ่านกระบวนการติดจุกไม้แบบไวน์บนเปลือกของกะลามะพร้าว ซึ่งจะใช้แบ่งครึ่งไม่ยาวเหมือนจุกไวน์ โดยใช้กาวประสานในการติด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้มือกดให้แตกสำหรับรับประทานน้ำมะพร้าว และยังสามารถกดให้กะลาแตกเพื่อรับประทานเนื้อมะพร้าวต่อได้อีกด้วย”
-ไอเดียบวกคุณภาพ
นัฐพงษ์ บอกต่อไปอีกว่า จุดเด่นของมะพร้าวพร้อมจุกแบรนด์ “Coco Crack” อยู่ที่การออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใต้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้เกิดเป็นรูปลักษณ์ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค โดยในปัจจุบันได้ดำเนินการเรื่องการจดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของคุณภาพของมะพร้าว ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากความชำนาญที่ได้คุลกคลีมาตั้งแต่เด็กๆ โดยจะเลือกใช้มะพร้าวที่มีเนื้อ 1 ชั้นครึ่งขึ้นไป ซึ่งมั่นใจได้ว่ามีรสชาติหวานอย่างแน่นอน การันตีคุณภาพหากไม่หวานสามารถนำผลิตภัณฑ์มาคืนได้ทันที
“ปัญหาของผู้บริโภคที่พบในปัจจุบันก็คือ เมื่อไปหาซื้อน้ำมะพร้าวมารับประทานด้วยตนเองก็มักจะเจอกับรสชาติที่ฝาด หรือเปรี้ยว รสชาติไม่อร่อยถูกปาก แต่ของเราจะคัดสรรมะพร้าวรสชาติดีมาให้ให้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าจะได้มะพร้าวที่มีน้ำรสชาติหวาน และเนื้ออร่อยถูกใจอย่างแน่นอน”
สำหรับช่องทางในการจำหน่ายในปัจจุบันนั้น เราจะมีตัวแทนจำหน่ายตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ส่วนที่กรุงเทพมหานครจะมีจำหน่ายที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือตลาด อ.ต.ก. โดยเราพยายามให้มีตัวแทนจำหน่ายเพียง 1 รายต่อหนึ่งพื้นที่เท่านั้น ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะขยายเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่ก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม เนื่องจากบางพื้นที่ก็มีนักท่องเที่ยวในจำนวนที่มาก
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้มีการเจรจากับผู้ที่จะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัท (Distributor) ไปจำหน่ายที่ประเทศจีน จากเดิมที่จะมีตัวแทนมารับผลิตภัณฑ์เพื่อไปจำหน่าย รวมถึงการเจรจาการค้าในการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายที่ประเทศดูไบ ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถนำไปจำหน่ายได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาแพคเกจของผลิตภัณฑ์สำหรับยืดอายุของผลิตภัณฑ์ให้ยาวนานขึ้นเป็น 90 วัน เพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายยังประเทศสหรัฐอเมริกา จากเดิมที่อายุของผลิตภัณฑ์จะอยู่ได้ประมาณ 15 วันหากแช่ในตู้เย็น และประมาณ 3 วันหากไม่ได้แช่
-โตแบบค่อยเป็นค่อยไป
นัฐพงษ์ บอกต่ออีกว่า ตนเริ่มต้นจากการเป็นเอสเอ็มอี (SMEs) ที่ไม่คอยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการทำธุรกิจ เพราะตนเป็นนักกฎหมาย และก็ไม้คิดว่าจะได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภค โดยต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักลงทุนให้ความสนใจที่จะเข้ามาขอร่วมลงทุน เพื่อขยายโรงงาน และขยายตลาดไปสู่การส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์, สหรัฐฯ และยุโรป (EU) แต่ตนก็ปฏิเสธ เนื่องจากต้องการให้ธุรกิจมีการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า
ในการควบคุมคุณภาพนั้น ตนจะใช้วิธีการผลิตตามออเดอร์เพื่อความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2 พันลูกต่อวัน หรือ 3-6 หมื่นลูกต่อเดือน ซึ่งเมื่อดำเนินการขยายตลาดแล้วเชื่อว่าต้องผลิตเพิ่มเป็น 1 หมื่นลูกต่อวัน โดยคาดว่าตั้งแต่ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปจะทำให้บริษัทมีรายได้ประมาณเดือนละ 10 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 120 ล้านบาท
ด้านกุยแจที่ไขไปสู่ความสำเร็จนั้น ตนเชื่อว่ามาจากไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่จะนำมาเพิ่มมลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดิมๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องของความสะดวกสบาย และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของคุณภาพ ที่จะต้องคัดสรรมาเป็นอย่างดีจนสามารถการันตีได้ว่ามะพร้าวพร้อมจุกแบรนด์ “Coco Crack” รสชาติดีทุกลูก.