เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เกิดแน่!!

“จุลพันธ์” มั่นใจ สถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่าแสนล้านบาท ไม่มี Low Season อีกต่อไป เพราะมีกิจกรรมหลากหลายสนองนักท่องเที่ยว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พร้อมด้วย นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงภาพรวมโครงการ “Thailand Entertainment Complex : มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก เพื่อคนไทยทุกคน” โดยชี้ให้เห็นถึงโอกาสของการท่องเที่ยวไทยและอธิบายถึงเหตุผลว่า ทำไมรัฐบาลต้องทำเอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์
ด้าน นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว รัฐบาลเดินหน้าการท่องเที่ยวด้วยการวางเป้าหมายใหม่ๆ กำหนดยุทธศาสตร์ใหญ่ที่จะทำการท่องเที่ยวแบบไม่รอฤดูกาล และ เน้นการท่องเที่ยวที่ “สร้างขึ้นใหม่” ไม่ว่าจะเป็นแผนงานการดึงอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาในประเทศ เช่น การแข่งรถยนต์ระดับ F1 วิจิตรเจ้าพระยา มหาสงกรานต์ Splash FIVB Volleyball Women’s Nations League , การท่องเที่ยวที่เน้นการสร้างคุณค่า เช่น การทำ THACCA, 5 Must Do in Thailand, Health & Wellness Tourism และ Man-Made Destination เช่น กระเช้าภูกระดึง, Cruise Terminal และ Enterainment Complex

“เอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลากหลายในหมวดการยกระดับการท่องเที่ยวเท่านั้น เอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่แค่โซนบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประเทศตลอดปี ทำให้ประเทศไทย ไม่มี Low Season อีกต่อไป”
นอกจากนี้ เอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็น Man-Made Destination ที่จะรวมไว้ตั้งแต่สวนสนุก/สวนน้ำ, พิพิธภัณฑ์, สเตเดียมอเนกประสงค์ในร่ม, พื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อนของประชาชน, พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP, โรงแรม 5 ดาว, ศูนย์นวัตกรรมสำหรับสตาร์ทอัพและธุรกิจแห่งอนาคต, ห้างสรรพสินค้าครบวงจรและโรงภาพยนตร์, คอนเสิร์ตฮอลล์ระดับเวิลด์คลาส, ศูนย์ประชุมและพื้นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่, ร้าน อาหารระดับมิชลินสตาร์, ท่าจอดเรือยอชท์และท่าเรือสำราญ, กาสิโน (ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด) ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ ผู้ประกอบการไทย เอสเอ็มอีไทย จะได้รับประโยชน์ตรงนี้อย่างแน่นอน และผมคิดว่านี่คือ โอกาสที่ประเทศไทยไม่ควรจะพลาดไป ประเทศไทยไม่ใช่ที่แรก เพราะที่ผ่านมา เอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ถูกพูดถึงและเป็นโครงการที่หลายประเทศกำลังมุ่งไป โดยคาดการณ์โอกาสในตลาดเอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์สูงถึง 54 ล้านล้านบาท/ปี ขอยกตัวอย่างข้อมูลรายได้ต่อปีจากสถานบันเทิงครบวงจรปี 2565 ของประเทศเวียดนาม คือ 180,000 ล้านบาท/ปี, เกาหลีใต้ 320,000 ล้านบาท/ปี, สิงคโปร์ 430,000 ล้านบาท/ปี ,ญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดในปี 2573 หรือปี 2030 เป็นต้น ข้อมูลตัวเลขจากประเทศเพื่อนบ้านแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
ส่วนโมเดลการสร้างเอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทย คือ โมเดลเหมือนสิงคโปร์ UAE และที่ญี่ปุ่นกำลังทำ นั่นคือจํากัดจํานวน เช่น ให้มีจํานวนน้อย แล้วบังคับให้การลงทุนเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ เท่านั้น หรือ ขนาด XXL มูลค่า 100,000 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งโมเดลนี้จะมาพร้อมกับการลงทุนขนาดใหญ่ที่เข้ามา สิ่งที่เราจะได้คือการยกระดับตัวอุตสาหกรรมขึ้นมาทั้งหมด และมาพร้อมกับมาตรฐานการกํากับดูแลระดับโลกด้วย เพราะเราต้องการดึงมาตรฐานระดับโลก มีความเป็นมืออาชีพ เข้ามา ประกอบกับไทยมีมาตรฐานในการพัฒนาและจัดการที่ดี


ทั้งนี้ สถานที่ตั้ง เอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เราศึกษาอยู่ใกล้กับแหล่งคมนาคมขนส่ง และที่สําคัญคือ อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเมื่อมี เอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว นอกจาก จะดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามา ยังต้องการให้ผู้คนมาเที่ยวที่นี่ แล้วก็ไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวข้างๆ ด้วย โดยกระจายรายได้ออกไปให้ทุกภาค
นายศึกษิษฏ์ ย้ำว่า เอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่การพนันออนไลน์ เป็นคนละเรื่อง แยกกันอย่างชัดเจน ใน พ.ร.บ.ระบุไว้ชัดเจนว่า พนันออนไลน์ไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นในนี้ และรัฐบาลก็เดินหน้าปราบปราม และกําจัดพนันออนไลน์ด้วย ซึ่งเราปิดเว็บไซต์ไป 90,000 กว่าเว็บฯ ปิดบัญชีม้าไปประมาณ 700,000 กว่าบัญชี
“วันนี้ รัฐบาลต้องการการลงทุนที่เรียกว่า on land คือลงทุนเป็น land-based Entertainment Complex ที่มีการลงทุนเกิดขึ้นจริง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานจริง มีเงินเข้ามาในประเทศจริง มีการจ้างงานจ้างอาชีพจริงๆ ส่วนเรื่องของ ‘กาสิโน’ ผมขอย้ำว่า ‘ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้’ และ กาสิโนจะอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย และมาตรฐานการดูแลระดับโลก ตั้งแต่มาตรการดูแลผู้เล่นในกาสิโน, การห้ามเข้า ,มีการลงทะเบียนและติดตามผู้เล่น รวมถึงมีมาตรการดูแลเพื่อสังคม เช่น การสนับสนุนทุนการศึกษา, การทำ CSR เพื่อสังคม และการป้องกันเยียวยาด้วย
นายศึกษิษฏ์ กล่าว ยืนยันว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินภาษีจากพี่น้องประชาชน เพราะเป็นการลงทุนโดยเอกชน แต่สิ่งที่จะได้คือ เราจะเกิดรายได้ตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างเกิดขึ้นในไทยแน่นอนสินค้า โต๊ะ ตู้ เตียง ต่างๆ ผ้าห่ม หมอน ต่างๆ ของเมืองไทยแน่นอน และการจ้างงานทุกอย่างเป็นคนไทย 100% ส่วนหลังเปิดให้บริการแล้วก็จะสามารถ ช่วยจีดีพี ไปได้ ถึง 0.2-0.8% ตามการคาดการณ์ ซึ่งผมคิดว่าสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ จะสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยว 100,000-200,000 ล้านบาท จากกิจกรรมที่ที่พูดไปข้างต้น คือ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สวน สวนสนุก มิวเซียม เรือยอร์ช สิ่งเหล่านี้สามารถยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเราได้ชัดเจน จะเกิดการจ้างงาน 9000-15,000 อัตรา เพราะสิงคโปร์ แค่มารีน่าเบย์แซนด์เจ้าเดียว ก็เกิดการจ้างงานกว่า 12,000 เข้าไปแล้ว ทั้งยังเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประมาณการว่า 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวขึ้น 13% ทำให้การท่องเที่ยวสม่ำเสมอทั้งปี ไทม์ไลน์การลงทุนยังอีกยาวไกล ปัจจุบันเราอยู่ที่จุดเริ่มต้น คือการทำกฎหมายเท่านั้น เฉพาะแผนการทำงานคาดว่าจะกินเวลาราว 3 ปี และทุกนาทีที่เสียไป เท่ากับ ‘โอกาส’ ที่ประเทศไทยเสียไปเช่นกัน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวตลอด 15 ปีของไทย โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2553 ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยติดอันดับโลกประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมาโดยตลอด ถึงแม้ช่วงโควิดนักท่องเที่ยวจะหายไปบ้าง แต่ช่วงปี 2566-2567 ก็ทำสถิติกลับมาติด 10 อันดับโลกใหม่ได้ แต่ถึง “จำนวนนักท่องเที่ยว” จะมีมาก แต่รายได้ต่อหัวที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศกลับไม่เพิ่ม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกับดักการท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงถึงเวลาที่ต้อง “สร้างโอกาส” ครั้งใหม่ พัฒนาการท่องเที่ยวที่ทำให้รายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
“จากการหารือกับนักลงทุนต่างประเทศ คาดว่า ถ้าหากประเทศไทยมี เอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว ภายใน 5-10 ปี ไทยจะขึ้นแท่นเป็นอันดับ 3 รองจาก ลาสเวกัส และมาเก๊า”
ส่วนกรณี โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของไทย เมื่อประมูลงานไปแล้ว มักเกิดขึ้นเหตุขัดข้องไม่สามารถดำเนินงานต่อไป ต้องล้มโครงการหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การล้มเลิกโครงการคงเกิดขึ้นยาก เพราะมีการศึกษา และวางระบบทั้งทางด้านกฎหมาย และอื่นๆ เอาไว้หมดแล้ว ขณะที่นักลงทุนเอง ก็เข้ามาศึกษาความเป็นไปได้และประเมินถึงผลกำไร หรือขาดทุนอยู่แล้ว หากไม่มีกำไร คงไม่มีใครกล้าลงทุนอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ต่างชาติรุมจีบไทย ผุด สถานบันเทิงครบวงจร