7 สิงหาคม ปิดฉากมหากาพย์ “ยุบพรรคก้าวไกล” คดีล้มล้างภาคสอง
ดีเดย์ 7 สิงหาคม 2567 วันชี้ชะตาก้าวไกล-พลพรรคสีส้ม ใน “คดีล้มล้างการปกครอง” ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย “ยุบพรรค” อนาคตพิธา-ชัยธวัช จะได้ไปต่อหรือไม่
ณ วันนี้ นาทีนี้ ไม่ต้องคาดเดา ว่า อัตราการต่อรอง พรรคก้าวไกลจะโดนยุบพรรคจะเป็นเท่าไหร่-หรือไม่ แต่ต้องลุ้นว่า “พรรคสีส้ม” จะมีปาฏิหาริย์ – มีโอกาสรอด ไม่โดนยุบพรรคกี่เปอร์เซ็นต์ จนมีกระแสข่าวตั้ง “พรรคสำรอง” ไว้รองรับแรงกระแทกทางการเมือง หากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมา “ทางลบ” และมีการ “แทงหวย” กันล่วงหน้าแล้วว่า “หัวขบวนรุ่นที่สาม” ของพรรคก้าวไกล จะออกมาที่ใคร รวมถึงตีกัน-ดักคอ “งูเห่าสีส้ม” ที่คิดจะฉวยจังหวะ “ตีจาก-ย้ายข้าง” ไปอยู่กับ “พรรคนายทุน” กระเป๋าหนักใน “พรรครัฐบาล”
7 สิงหาคม ชี้ชะตา “ยุบพรรคก้าวไกล”?
ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย “ยุบพรรคก้าวไกล” ในคดีที่ กกต.ปัดฝุ่น “คำวินิจฉัย 3/2567” ใน “คดีล้มล้างภาคแรก” ก่อนหน้านี้ที่สั่งห้ามพรรคก้าวไกลใช้การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หาเสียงเลือกตั้ง โดยใช้คำว่า “เซาะกร่อน-บ่อนทำลาย” เป็นหอกแทง-สารตั้งต้น ยื่นคำร้องให้วินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งผิดกฎหมาย “พ.ร.บ.พรรคการเมือง” และหากตัดสินยุบพรรคจะส่งผลให้กรรมการบริหารพรรค โดนเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งและห้ามดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี
หากผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญใน “คดีล้มล้างภาคสอง” เป็นโทษกับพรรคก้าวไกล ยังมีเอฟแฟกต์ เป็น “ดาบสอง” รออยู่ที่ ปปช. เพราะมี “นักร้อง” ไปยื่นกล่าวหา-ขอให้ชี้มูลความผิด “44 สส.” พรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขกฎหมาย “มาตรา 112” ในความผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงของนักการเมือง และให้ส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา ซึ่งบทลงโทษฉกรรจ์ถึงขั้น “ประหารชีวิตทางการเมือง” คือ ตัดสิทธิรับสมัครการเลือกตั้ง-ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง “ตลอดชีวิต”
ถิ่นกาขาวชาววิไล “พรรคสำรอง-สับขาหลอก”
การโดนยุบพรรค เปรียบเป็นวงจรอุบาทว์ กลายเป็นความชิน-ชา ของพรรคก้าวไกลที่มี “รากเง้า” มาจากพรรคอนาตใหม่ “แผนสำรอง” จึงวนลูป กลับมาฉาย (หนังม้วนเดิม) ใหม่ คือ การตั้ง “พรรคใหม่” เปลี่ยนชื่อ-เปลี่ยนหัว จนมีชื่อ “พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล” โยนหินถามทาง เป็น “ยานแม่ลำใหม่” ของ “พรรคสีส้ม” หรือ เป็นแค่การสับขาหลอก เล่นเกมจิตวิทยา-ยั่วประสาทขุมอำนาจเก่า-หัวอนุรักษนิยมจัดให้ “อกแตกตาย” เพราะ “ฆ่าไม่ตาย” และ “ยิ่งยุบยิ่งโต” แตกหน่อใหม่เป็นพรรครุ่นสาม-รุ่นสี่ เป็นแผ่นเสียงตกร่องให้เสียดแก้วหู-กวนใจ
หากย้อนกลับไปวินาทีที่พรรคอนาคตใหม่โดนยุบ-ประกาศตั้งพรรคก้าวไกล ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเสมือนเป็น “โรคอุบัติใหม่” ในทางการเมืองอขง “พรรคอายุไม่ถึง 2 ขวบ” ไม่เคยได้ลิ้มรสชาติอันขมขื่นมาก่อนหลังจากลืมตาขึ้นมาดูโลกการเมือง แต่ก็ยังรับมือได้ ไม่ออกอาการอ่อนหัด-ไร้เดียงสาทางการเมือง เตรียมตัว-เตรียมใจไว้ตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้งพรรค จากแรงส่งของการขับเคลื่อนนโยบายแหลมคม จนชนะใจโหวตเตอร์ โกยคะแนนเสียงเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ-หักปากกาเซียนทุกวงเหล้า ฉีกทุกกฎของสำนักโพล จนมี “ภูมิคุ้มกัน” ต่อต้านการถูกคุกคามอัตโนมัติ ราวกับว่า การโดนยุบพรรค กลายเป็น “โรคประจำถิ่น” ของพรรคก้าวไกลไปเสียแล้ว
ตัวเต็งแคนดิเดต “หัวหน้าพรรคคนใหม่”
หัวหน้าพรรคหัวก้าวหน้าคนใหม่-ทายาทรุ่นสามของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ถูกโยนหินถามใจ “ด้อมส้ม” ว่าจะขานรับคำนำหน้าชื่อ-สกุลสามัญชนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ร่วมรบ-เคียงบ่าเคียงไหล่กับ “อดีตหัวหน้าพรรค” ทุกคน-ทั้ง 3 คน คือ ธนาธร-พิธา-ชัยธวัช จัดอยู่ในสปีชีส์นักการเมืองหญิงเก่ง-หญิงแกร่ง “ครบเครื่อง” ทั้งตำราเศรษฐกิจ-พรรษาการเมือง มี “จุดแข็ง” เป็น “มันสมอง” นโยบายเศรษฐกิจให้กับพรรค จนมีชื่อติดปากพิธา-ติดโผเป็น “รัฐมนตรีคลังหญิง” คนแรก ๆ ในช่วงฟอร์ม “รัฐบาลตระบัดสัตย์”
อีก 2 คน ทีตีคู่กันมาในช่วง “โค้งสุดท้าย” ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรค คือ “วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร” หนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล มี “จุดเด่น” ไม่เป็นรองใครในกระบวนท่าทางเศรษฐกิจ เป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์หนุ่มไฟแรง “ดีกรีด็อกเตอร์” จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แต่กระดูกทางการเมืองยังไม่แข็งโป๊ก ที่จะงัดข้อกับนักการเมืองฝีปากจัดจ้าน-เขี้ยวลากดินได้ อีกคน คือ “สส.เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่มาออกตัวแรงในช่วง 100 เมตรสุดท้าย เคยมีชื่อติดโผ รมว.ดีอีเอส ใน “ครม.พิธา1” ของ “รัฐบาลเป็นหมัน” เป็น “ศิษย์ทวีธาภิเศก” และ “วิศวะจุฬาคอนเน็กชั่น” เป็น “สายบุ๋น” สุขุม-นุ่มลึก
วัดใจ “งูเห่าสีส้ม” แตกแถว
ฉากทัศน์เลวร้ายที่สุดอของก้าวไกลโดนทั้งดาบหนึ่ง-ซ้ำดาบสอง ยุบพรรค-ตัดสิทธิผู้บริหารพรรค 10 คน + และ ขุนพล 44 สส. จาก 151 เสียงกลายเป็น “พรรคต่ำร้อย” ยังต้อง “วัดใจ” สส.ในช่วง “ไม่มีศาล” จะ “หวั่นไหว” กับ “แก้ว-แหวน-เงิน-ทอง” ที่จะมากองประเคนอยู่ตรงหน้า ให้ได้ “ใจแตก” จน “แตกแถว” เพียงเพื่อน้ำบ่อหน้า-ฮาราคีรีอนาคตทางการเมืองตัวเองไปแสวงหาความสุขกับ “พรรครัฐบาล” ทั้ง “พรรคบ้านป่า” และ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่พร้อมจะ “ช้อนซื้อ” ไม่เว้นแม้กระทั่ง “พรรคอนุรักษนิยมเก่า” ที่พร้อมจะ “ซื้อตัว” โดยไม่สนเรื่องราวในอดีต-ความหลังว่าจะเป็นสีแดง หรือ “สีส้ม”
บทเรียนในอดีตของพรรคอนาคตใหม่-พรรคก้าวไกลปัจจุบันมีให้เห็น “งูเห่าสีส้ม” ตัวเป็น ๆ มาแล้ว แต่ที่ “ออกนอกแถว” ส่วนใหญ่ปิดฉากชีวิตทางการเมือง-สอบตกในการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็น “ใบไม้ร่วง” ที่ได้ดิบได้ดี-มีตำแหน่งแห่งที่ก็มีอยู่บ้างประปราย เป็นหนัง “หน้าไมค์” ให้กับรัฐบาลก็มีให้เห็น แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้าง-มีแสงสปอตไลท์ในตัวเอง ต้องพึ่งใบบุญ-รังสีบารมีของหัวหน้าพรรคให้ได้เฉิดฉายบนโรงละครการเมือง ดังนั้นพรรคก้าวไกลหากโดนยุบพรรคซ้ำ-ซาก “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” ใครคิด-ริลอกคราบงูเห่าคงต้องคิดหลายตลบ-นอนคิดหลายคืนจนฟ้าสาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : จับตา การเมืองสิงหาคม ทักษิณคัมแบ็ก-ยุบก้าวไกล-ชี้ชะตาเศรษฐา