ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 22-23 พ.ย.2566
งานงอก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง สืบเนื่องจากการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 ที่ผ่านมา เศรษฐา ได้พูดถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของนายอำเภอและผู้กำกับ
เรื่องที่ 3,291 โดย เศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า “สำหรับผู้กำกับใหม่ ผมมั่นใจว่ามีทั้งผู้ผิดหวัง และผู้สมหวังอยู่ในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง โดยเป็นผู้กำกับใหม่ ซึ่งเราจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กันให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และกำจัดปัญหาหนี้นอกระบบออกไป”
จากคำพูดถึงดังกล่าว ถูกวิจารณ์ว่า นายกฯ กำลังทำผิดรัฐธรรมนูญ ที่มีเจตนารมณ์ป้องกันไม่ให้ สส. ก้าวก่ายแทรงแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ตามมาตรา 185 รัฐธรรมนูญ
หากจำกันได้ ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง “เศรษฐา” ได้ประกาศนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย หนึ่งในนั้น คือการแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม โดยจะต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง
ซึ่งหากสิ่งที่ “เศรษฐา” พูดในวงประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เป็นความจริง “เศรษฐา” และ สส.พรรคเพื่อไทย ย่อมจะมีเจอกับงานงอกอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
เพราะหลังจากนี้กระบวนการตรวจสอบกำลังจะตามมา โดยล่าสุด กรรมมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมจะเรียกให้มาชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว
เรื่องที่ 3,292 เห็นจะได้ฉายารอไว้เลยโดยไม่ต้องรอให้นักข่าวประจำทำเนียบช่วยกันตั้งตามธรรมเนียมของทุกปีสำหรับพี่ตุ๋ย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เพราะล่าสุดออกมาแสดงความเกรี้ยวกราดไม่พอใจใส่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ถึงกรณีที่ออก 3 ทางเลือกขึ้นค่าไฟหน่วยละ 4.68 – 5.95 บ. งวดม.ค.-เม.ย. 67 จากปัจจุบัน(ก.ย.-ธ.ค. 66) อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย
พี่ตุ๋ยได้จัดการสั่งการให้ทีมงานเข้าไปดูโครงสร้างต้นทุนค่าไฟเพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือประชาชน จะแยกต้นทุนรายตัว บางเชื้อเพลิงอาจปรับขึ้น แต่พี่ตุ๋ยคนเก่งมองว่าคงไม่เท่าราคาที่กกพ.ประกาศออกมา
พร้อมลั่นประโยคเด็ดตามสไตล์นักการเมืองว่าจะพยายามทำให้ค่าไฟยังอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยต่อไป แต่ก็ปูทางลงให้ตัวเองไว้แล้วเสร็จสรรพด้วยว่า หากต้นทุนเพิ่มจริงก็อาจขยับเล็กน้อยแต่คงไม่สูงตามที่ กกพ.ประกาศออกมา
ก่อนหน้านี้ก็โวยใส่กระทรวงพลังงานที่ปล่อยให้ราคาน้ำมันขึ้นลงเหมือนหุ้นไปแล้วรอบหนึ่ง
ความโวยวายที่เกิดขึ้นก็ถือว่าประชาชนได้ประโยชน์ไปแบบเต็มๆ ยังไงก็ขอให้ทำได้สำเร็จนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 3,293 “หนิม-จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ช่วงนี้ ไม่มีคำว่า ถอย สำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท แต่ล่าสุด ยอมรับว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้ส่งรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท ให้กฤษฎีกาพิจารณา เพราะมีการปรับแก้ไข และเพิ่มเติมข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี66 หลังจากที่ สภาพัฒน์ฯ แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา จีดีพี ขยายตัวเพียง 1.5% เท่านั้น ส่วนร่าง พ.ร.บ.จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ก็พร้อมที่จะส่งให้กฤษฎีกาตีความเมื่อนั้น แต่ไม่น่าเกินสิ้นปีนี้ อย่างแน่นอน!!
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่อง 3,294 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกมาแสดงความยินดีที่อิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน โดยข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันราว 50 คนเพื่อแลกกับการที่อิสราเอลหยุดการสู้รบเป็นเวลา 4 วัน
“ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ชาวอเมริกันที่ถูกจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซาได้กลับบ้านเพิ่มขึ้นอีก และผมจะไม่หยุดติดตามเรื่องนี้จนกว่าตัวประกันทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว” ปธน.ไบเดนกล่าว
คณะรัฐมนตรีอิสราเอลได้อนุมัติการทำข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสแล้ว โดยในขั้นตอนแรกของข้อตกลงซึ่งกาตาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจานั้น ฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่เป็นผู้หญิงและเด็กที่ถูกจับกุมตัวไว้ในฉนวนกาซา และในขั้นตอนที่สองนั้น ฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่เป็นผู้หญิงและเด็กเพิ่มอีก เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลจะขยายเวลาพักรบต่อไปอีกหลายวัน
ขณะที่กลุ่มฮามาสแถลงว่าจะปล่อยตัวประกัน 50 คนที่เป็นผู้หญิงและเด็ก จากจำนวนตัวประกันราว 240 คน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้หญิงและเด็กชาวปาเลสไตน์จำนวน 150 คน
เรื่องที่ 3,295 สำนักข่าว KCNA ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวดบรรทุกดาวเทียมสอดแนม และสามารถส่งดาวเทียมดังกล่าวเข้าสู่วงโคจรได้อย่างแม่นยำ
เกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์ปกป้องการส่งดาวเทียมสอดแนมในครั้งนี้ว่า “การส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันตนเองของเกาหลีเหนือ และการส่งดาวเทียมครั้งนี้จะช่วยสร้างความพร้อมในการทำสงครามให้กับเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ศัตรูมีความเคลื่อนไหวทางทหารซึ่งเป็นอันตรายต่อเกาหลีเหนือ”
รายงานระบุว่า จรวด “Chollima-1” ของเกาหลีเหนือได้นำดาวเทียมสอดแนม “Malligyong-1” ขึ้นสู่วงโคจรเมื่อเวลา 22.54 น.ของวันอังคาร (21 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากมีการปล่อยจรวดออกจากฐานได้ประมาณ 12 นาที
เรื่องที่ 3,296 หน่วยงานศุลกากรสหรัฐเผยว่า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์รวมมูลค่าสูงถึง 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสหรัฐหรืออยู่ระหว่างรอตรวจสอบที่ด่านศุลกากรในเดือนก.ย. เช่น แผงโซลาร์เซลล์และไมโครชิป โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากมาเลเซียและเวียดนาม โดยการดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตจากการบังคับใช้แรงงานในจีน
นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 สหรัฐได้บังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ โดยกฎระเบียบเหล่านี้ส่งผลให้มีการควบคุมการขนส่งมากกว่า 6,000 รายการ รวมมูลค่าสินค้ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนถึงเดือนก.ย. ซึ่งเป็นเดือนล่าสุดที่ศุลกากรสหรัฐเปิดเผยข้อมูล
จากข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย.พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของรายการสินค้าได้ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศสหรัฐ หรือกำลังอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติ โดยสินค้ามากกว่า 2 ใน 3 ที่ถูกปฏิเสธคือ สินค้าจากมาเลเซียหรือเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกแผงโซลาร์เซลล์และชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ไปยังสหรัฐ
เฉพาะในเดือนก.ย. สินค้าที่ถูกส่งไปยังสหรัฐมูลค่า 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศหรืออยู่ระหว่างรอตรวจสอบ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากจากมูลค่าน้อยกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนส.ค. โดย 90% เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
เรื่องที่ 3,297 สำนักข่าวเอชเค01 (HK01) ของฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้ายึดคฤหาสน์หรู 2 หลังในฮ่องกงของนายหุย กาหยั่น ประธานบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน
คฤหาสน์ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัย “เดอะพีก” (The Peak) ที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง และมีมูลค่ามากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (192 ล้านดอลลาร์) สินทรัพย์ดังกล่าวจะถูกครอบครองโดยเจ้าหนี้อย่างเป็นทางการภายในไม่กี่วัน รายงานระบุว่า เจ้าหนี้ที่ไม่ระบุชื่อรายหนึ่งได้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องเมื่อวันอังคาร (21 พ.ย.) แต่ไม่ได้เปิดเผยที่มาของข้อมูลนี้
ข้อมูลจากสำนักงานทะเบียนที่ดินระบุว่า นายหุย กาหยั่น เป็นเจ้าของคฤหาสน์หรู 2 หลังในย่านเดอะพีก โดยทั้งสองหลังได้ถูกใช้เป็นหลักประกันเงินกู้จากโอริกซ์ เอเชีย แคปิตอลเมื่อเดือนพ.ย. 2564 โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าหลักประกัน
อย่างไรก็ดี โฆษกของโอริกซ์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานดังกล่าว เช่นเดียวกับเอเวอร์แกรนด์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บ้านอีกหลังของนายหุยที่อยู่ติดกับคฤหาสน์ทั้งสองหลังนั้นได้ถูกธนาคารไชน่า คอนสตรักชั่น แบงก์ (เอเชีย) เข้ายึดเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
โดยนพวัชร์