สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 16 ต.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่าน ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้
คาดการณ์: ในช่วงวันที่ 16–19 ต.ค. 66 ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 15 ต.ค. 66 น้อยกว่าปี 2565 จำนวน 7,373 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 60,283 ล้าน ลบ.ม. (73%)
ปริมาณน้ำใช้การ 36,116 ล้าน ลบ.ม. (62%)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่
เฝ้าระวังน้ำมาก 10 แห่ง ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล แม่มอก แควน้อยบำรุงแดน และกิ่วลม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ห้วยหลวง ลำปาว หนองหาร น้ำพุง และอุบลรัตน์ ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล
ขอให้หน่วยงานพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำสำหรับฤดูแล้งนี้ด้วย
เฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคตะวันออก : คลองสียัด ภาคตะวันตก: ปราณบุรี
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำ โดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด
2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอ
ความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ
3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตร
ให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยง ต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่ คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
สทนช. ประกาศ ฉบับที่ 3/2566 เรื่องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยง และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 12 – 18 ต.ค. 2566 ดังนี้
1. อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการ
อ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม แม่มอก น้ำห้วยหลวง น้ำพุง หนองหาร อุบลรัตน์ ลำปาว และขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และมีแนวโน้มปริมาตรน้ำมากกว่า 80%
2. พื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
2.1 แม่น้ำยม บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง เมืองสุโขทัย และกงไกรลาศ จ.สุโขทัย อ.พรหมพิราม และบางระกำ
จ.พิษณุโลก อ.สามง่าม และโพทะเล จ.พิจิตร 2.2 แม่น้ำมูล บริเวณสถานี M.7 อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ +113.00 ถึง +113.50 ม.รทก. สูงกว่าตลิ่ง 1.00–1.50 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร ดอนมดแดง ตระการพืชผล และม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
2.3 แม่น้ำยัง บริเวณสถานี E.92 อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด คาดการณ์ว่าในวันที่ 10-11 ต.ค. 66 ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สูงกว่าตลิ่ง 1.00-1.50 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณ อ.เสลภูมิ และโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด และลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ในวันที่ 13-14 ต.ค. 66
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วง
1-3 วัน บริเวณ ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคใต้
จ.ชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสตูล
+พื้นที่ชุมชน รวม 6 จังหวัด 21 อำเภอ 88 ตำบล 497 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,054 ครัวเรือน ดังนี้
ภาคเหนือ จ.เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง จ.กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
พื้นที่เกษตรกรรม รวม 21 จังหวัด 457,483 ไร่ ได้แก่ จ.อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร หนองบัวลำภู อุดรธานี ร้อยเอ็ด ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ยโสธร อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และสระแก้ว
สทนช. ลงพื้นที่ติดตามแนวทางบริหารจัดการมวลน้ำก่อนไหลลงสู่เจ้าพระยา มุ่งเป้ากักเก็บน้ำบึงบอระเพ็ดให้มากที่สุด พร้อมเร่งจัดจราจรน้ำเข้า 10 ทุ่งรับน้ำ วานนี้ (15 ต.ค. 66) ดร. สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จ.ชัยนาท และ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์มวลน้ำที่กำลังไหลหลากจากพื้นที่ตอนบนของประเทศโดยเฉพาะจากแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านลงสู่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง วางแผนตัดมวลน้ำ
เข้ากักเก็บในบึงบอระเพ็ดให้มากที่สุด และติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเจ้าพระยาและการรับน้ำเข้าทุ่ง รวมถึงรับฟังความคิดเห็นและผลกระทบที่เกิดกับจากประชาชนในพื้นที่ด้วย