สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 ต.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ :ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง คาดการณ์: ในช่วงวันที่ 15–17 ต.ค. 66 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 11 ต.ค. 66 น้อยกว่าปี 2565 จำนวน 8,446 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 58,563 ล้าน ลบ.ม. (71%) ปริมาณน้ำใช้การ 34,394 ล้าน ลบ.ม. (59%)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่
เฝ้าระวังน้ำมาก 9 แห่ง ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล แม่มอก และกิ่วลม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ห้วยหลวง ลำปาว หนองหารน้ำพุง และอุบลรัตน์ ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล
ขอให้หน่วยงานพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำสำหรับฤดูแล้งนี้ด้วย
เฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคตะวันออก : คลองสียัด ภาคตะวันตก: ปราณบุรี
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่องและ 3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
พื้นที่ชุมชน รวม 11 จังหวัด 45 อำเภอ 182 ตำบล 925 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,196 ครัวเรือน ดังนี้
ภาคเหนือ จ.อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และนครสวรรค์ ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ส่วน จ.เพชรบูรณ์ ระดับน้ำมีแนวโน้มทรงตัว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู และเลย ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง จ.กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พื้นที่เกษตรกรรม รวม 24 จังหวัด 418,492 ไร่ ได้แก่ จ.ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี เลย หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว
สทนช. ประกาศ ฉบับที่ 3/2566 เรื่องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยง และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 12 – 18 ต.ค. 2566 ดังนี้
1. อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม แม่มอก น้ำห้วยหลวง น้ำพุง หนองหาร อุบลรัตน์ ลำปาว และขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และมีแนวโน้มปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80
2. พื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
2.1 แม่น้ำยม บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง เมืองสุโขทัย และกงไกรลาศ จ.สุโขทัย อ.พรหมพิราม และบางระกำ จ.พิษณุโลก อ.สามง่าม และโพทะเล จ.พิจิตร
2.2 แม่น้ำมูล บริเวณสถานี M.7 อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ +113.00 ถึง +113.50 ม.รทก. สูงกว่าตลิ่ง 1.00–1.50 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร ดอนมดแดง ตระการพืชผล และม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
2.3 แม่น้ำยัง บริเวณสถานี E.92 อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด คาดการณ์ว่าในวันที่ 10-11 ต.ค. 66 ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สูงกว่าตลิ่ง 1.00-1.50 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณ อ.เสลภูมิ และโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด และลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ในวันที่ 13-14 ต.ค. 66
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ภาคตะวันออก จ.ปราจีนบุรี ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
กรมเจ้าท่า เร่วช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยบริเวณ ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
กรมเจ้าท่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ และเรือเจ้าท่า 185 พร้อมเครื่องจักรเครื่องมือประจำจุดช่วยเหลือ ณ บริเวณ ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ดำเนินการลำเลียงอาหาร และเครื่องดื่มให้ประชาชนที่ประสบภัย 2 หมู่บ้าน 100 หลังคาเรือน และพื้นที่เกษตรประมาณ 1,000 ไร่ ใกล้แม่น้ำชี โดย อบต. บ้านค่าย ได้เร่งระบายน้ำลงพื้นที่การเกษตร เพื่อบรรเทาปริมาณน้ำในพื้นที่ชุมชน ปัจจุบันน้ำเริ่มลดระดับอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่สถานการณ์น้ำจะเริ่มคลี่คลาย
น้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน